อุตฯยานยนต์หวังปี’60 ในประเทศ-ส่งออกฟื้นตัว
โดย...โชคชัย สีนิลแท้
โดย...โชคชัย สีนิลแท้
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนั้นยังคงต้องฝากความหวังไว้ในปีหน้าว่าตลาดจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก หลังผ่านจุดต่ำสุด
พิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าในปี 2560 ตลาดรถยนต์จะกลับมาเป็นบวกหลังจากลดลงมา 4 ปีติดกัน โดยประเมินว่าจะเป็นบวกที่ 8 แสนคัน หรือเติบโตจากปีนี้ประมาณ 6% โดยมีปัจจัยบวกมาจากรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้น 3% ซึ่งเป็นรายได้เกษตรกรทั้งระบบอยู่ที่ 8 แสนล้านบาททั้งระบบ แต่ในปี 2560 รายได้เกษตรกรในปี 2560 นั้นยังน้อยกว่าปี 2549-2554 ที่เกษตรกรรายได้ทั้งระบบ อยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยประมาณ 14% โดยกสิกรคาดการณ์ว่าจีดีพีปีหน้าจะเติบโตที่ 3.3% จากในปีนี้ที่เติบโตที่ 3%
สำหรับในปีนี้ตลาดรถยนต์ครึ่งปีหลังจะมียอดขายที่ดีขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะมียอดขายเฉลี่ยต่อเดือน อยู่ที่ 6.5-6.6 หมื่นคัน เปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่มียอดขาย อยู่ที่ 61,438 คัน โดยกสิกรคาดว่าตลาดรวมปีนี้จะลดลง 5-6% อยู่ที่ 7.5-7.6 คัน ซึ่งโดยภาพรวมถือเป็นจุดต่ำสุดของตลาดรถยนต์
กฤษดา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์หรูปีนี้คาดว่าจะไม่เติบโต หรืออยู่ที่ 2.2 หมื่นคัน เนื่องจากว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสรรพาสามิตใหม่ทำให้ตลาดรถหรูถูกซื้อไปในปีที่แล้วจำนวนมาก ซึ่งปีที่แล้วตลาดรถหรูมีการเติบโตถึง 11% อยู่ที่ 22,441 คัน ขณะที่ยอดขายทั่วโลกของบริษัทในปี 2558 อยู่ที่ 2.2 ล้านคัน เติบโต 6% ซึ่งเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2553
อัชณา ลิมป์ไพฑรูย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวว่า การส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ในปีนี้จะเท่ากับปีก่อนอยู่ที่ 1.65 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนโดยเฉพาะตะวันออกกลางโดยยอดส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ครึ่งปีแรก ลดลง 0.79% อยู่ที่ 8,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพียงใจ แก้วสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) มองว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้ถือเป็นปีที่ปรับตัวเพื่อเข้าสู่ภาวะปกติ
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ยอดผลิตรถยนต์ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา รถยนต์นั่งอยู่ที่ 43,157 คัน จากเดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 40,693 คันเพิ่มขึ้น 6.06% รถกระบะ 1 ตัน เดือน ก.ค. 2559 อยู่ที่ 50,696 คัน ส่วนเดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 60,150 คัน ลดลง 15.72% ซึ่งรวมผลิตเพื่อส่งออกในเดือน ก.ค. 2559 อยู่ที่ 93,853 คัน จากเดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 100,843 คัน ลดลง 6.93% รถยนต์นั่งเดือน ก.ค. 2559 อยู่ที่ 26,761 คัน ส่วนเดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 24,312 คัน เพิ่มขึ้น 10.07%
รถกระบะ 1 ตัน เดือน ก.ค. 2559 อยู่ที่ 30,471 คัน จากเดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 38,395 คัน ลดลง 20.64% รถยนต์โดยสารขนาด 10 ตันขึ้นไป เดือน ก.ค. 2559 อยู่ที่ 23 คัน จากเดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 48 คัน ลดลง 52.08% รถบรรทุกเดือน ก.ค. 2559 อยู่ที่ 2,842 คัน ขณะที่เดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 2,265 คัน เพิ่มขึ้น 25.47% รวมผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือน ก.ค. 2559 อยู่ที่ 60,097 คัน ขณะที่เดือน ก.ค.2558 อยู่ที่ 65,020 คัน ซึ่งลดลง 7.57% รวมรถยนต์ทุกประเภทเดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 153,950 คัน ขณะที่เดือน ก.ค. 2558 อยู่ที่ 165,863 คัน ซึ่งลดลง 7.18%
วัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า สำหรับนโยบายรัฐที่ประกาศการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ค่ายรถยนต์ทั้งหมดก็ออกมาส่งสัญญาณแล้วว่ารัฐบาลไม่ควรจะเร่งรีบควรจะไปส่งเสริมให้เกิดอีก 5-10 ปีข้างหน้ามากกว่าเพราะจะกระทบมากคือผู้ประกอบการชิ้นส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการไทยจะได้รับผลกระทบ เพราะรถอีวีเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงจึงต้องมีเวลาปรับตัว


