จองห้องพักได้ห้องไม่เหมือนโฆษณา
ปัญหาจากการใช้บริการหอพักห้องเช่า ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามายังศูนย์พิทักษ์สิทธิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีข่าวปัญหาเรื่องที่หอพักมีการคิดค่าน้ำ-ค่าไฟแพงเกินจริง โดยทาง สคบ.ออกมาขู่เองว่าหอพักใดทำผิดมีสิทธิโดนลงโทษทั้งปรับทั้งจำ โดยบริการหอพักห้องเช่าอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 นอกจากนี้ยังกำหนดให้ธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัยที่เรียกเงินประกันเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา ในการทำเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ก็มีสัญญาหลักฐานที่ชัดเจน ห้ามเรียกเก็บเงินหรือค่าบริการต่างๆ โดยไม่แสดงหลักฐานโดยเด็ดขาด
ปัญหาจากการใช้บริการหอพักห้องเช่า ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามายังศูนย์พิทักษ์สิทธิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีข่าวปัญหาเรื่องที่หอพักมีการคิดค่าน้ำ-ค่าไฟแพงเกินจริง โดยทาง สคบ.ออกมาขู่เองว่าหอพักใดทำผิดมีสิทธิโดนลงโทษทั้งปรับทั้งจำ โดยบริการหอพักห้องเช่าอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 นอกจากนี้ยังกำหนดให้ธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัยที่เรียกเงินประกันเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา ในการทำเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ก็มีสัญญาหลักฐานที่ชัดเจน ห้ามเรียกเก็บเงินหรือค่าบริการต่างๆ โดยไม่แสดงหลักฐานโดยเด็ดขาด
อีกหนึ่งปัญหาที่มักพบบ่อยเช่นกัน ก็คือเรื่องของสภาพห้องพักที่สภาพห้องจริงๆ ไม่เป็นไปตามภาพที่ถ่ายเพื่อใช้สำหรับการโฆษณา ซึ่งด้วยความที่ในยุคปัจจุบัน หลายคนตัดสินใจเลือกใช้บริการห้องพักต่างๆ ผ่านทางการดูภาพโฆษณาที่ทางหอพักลงประกาศไว้ในเว็บไซต์หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ผู้เช่าหลายคนมักจะตัดสินใจจากการเพียงดูภาพโฆษณาที่นำมาลงไว้ ไม่ได้มีโอกาสไปขอดูห้องพักจริงๆ ดูจากรูปภาพที่โฆษณาแล้วรู้สึกพึงพอใจก็ติดต่อไปหาผู้ให้เช่า โอนเงินค่าเช่าค่ามัดจำตกลงทำสัญญาเช่ากันเป็นที่เรียบร้อยผ่านทางโทรศัพท์หรือแอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียต่างๆ
ปัญหาจะมาเกิดก็ตอนขนข้าวของเสื้อผ้าย้ายเข้ามาอยู่ พอได้เห็นห้องจริงๆ กลับไม่เหมือนรูปภาพที่เห็นจากในโฆษณา เมื่อจะเปลี่ยนใจไม่ขอเช่า ขอเงินมัดจำที่โอนไปแล้วคืน เจ้าของห้องเช่าก็ไม่ยอมจ่ายคืนให้ง่ายๆ อ้างนู่นนี่นั่นว่าเป็นระเบียบของหอพัก สุดท้ายจึงต้องกลายมาเป็นเรื่องร้องเรียนกันในที่สุด
คำแนะนำของศูนย์พิทักษ์สิทธิในเรื่องนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นถือว่าเข้าข่ายความผิดในกรณีโฆษณาเกินจริง เนื่องจากสภาพของห้องที่ใช้ในโฆษณาแตกต่างกันมาก เช่น ในภาพที่ใช้โฆษณามีเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ครบครัน อยู่ในสภาพใหม่สวยงาม แต่ห้องจริงๆ กลับมีเฟอร์นิเจอร์แค่ไม่กี่ชิ้น แถมสภาพเก่าทรุดโทรม หรือเรื่องระบบความปลอดภัยที่ไม่เป็นไปตามที่โฆษณา ซึ่งถ้าพิจารณาแล้ว หอพักจงใจโฆษณาหลอกลวงจริง ห้องพักถือว่ามีความผิด มีโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งหากในกรณีที่เตรียมย้ายเข้าไปอยู่แล้วพบว่าห้องไม่เป็นไปตามที่โฆษณาต้องการขอยกเลิกสัญญา แต่ห้องพักไม่ยอมคืนเงินมัดจำ เจรจาตกลงกันไม่ได้ ให้ผู้เช่านำเรื่องไปแจ้งความดำเนินคดี หรือแจ้งไปยัง สคบ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป