ปั้นแบรนด์‘อมาธารารีสอร์ท’ เจาะกลุ่มลูกค้ารักสุขภาพ
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุตามแนวโน้มที่เกิดขึ้นกับหลายประเทศ ส่วนหนึ่งเพราะวิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวหน้า อีกส่วนมาจากคนให้ความสำคัญดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น จึงมีผู้ประกอบการที่เห็นโอกาสจากตลาดคนใส่ใจสุขภาพออกสินค้าหรือบริการรองรับ
ปรารถนา ปุณณกิติเกษม กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้งอมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาหลักสูตรการจัดการสุขภาพแบบองค์รวม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล และได้เข้าร่วมโครงการรีแบรนด์โรงแรมรีเจ้นท์เป็นอมาธารา โดยมีเป้าหมายสำคัญพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (เวลเนส) แบบไทยไปในเวทีโลก
“เดิมโรงแรมนี้ชื่อรีเจ้นท์ มีสปาชื่ออมาธาราในโรงแรม เมื่อต้องการปรับตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไปเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการเฉพาะ หรือนิช มาร์เก็ต โดยมีความปรารถนาของเจ้าของโรงแรมที่ต้องการพัฒนารีสอร์ทสำหรับผู้รักสุขภาพเป็นโจทย์ จึงยกระดับแบรนด์อมาธารา เป็นชื่อโรงแรมแทน มีจุดมุ่งหมายเป็นรีสอร์ทที่ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เริ่มเปลี่ยนแบรนด์เดือน ต.ค. 2558”
ทั้งนี้ การเป็นรีสอร์ทที่ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเป็นกลยุทธ์สร้างความแตกต่างทางธุรกิจ เพราะกลุ่มโรงแรมที่เน้นเรื่องดูแลสุขภาพยังมีไม่มากใน จ.ภูเก็ต มองว่าจะได้ลูกค้าที่พักระยะยาวขึ้น ไม่ใช่พักแค่ 2 คืน แต่จะพัก 3-5 คืนขึ้นไป ขณะเดียวกันอมาธาราถือเป็นที่แรกที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ต่างจากโรงแรมอื่นในภูเก็ตที่เน้นเรื่องสุขภาพ จะเน้นไปเฉพาะบางด้าน เช่น บางที่เน้นสปา บางที่เน้นกีฬา
ปรารถนา กล่าวว่า การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมคือดูแลทั้งกายและใจ โดยการดูแลกายคือให้ความสำคัญเรื่องอาหาร ทุกอย่างถูกออกแบบโดยนักโภชนาการและเชฟเป็นเมนูอาหารสุขภาพที่อร่อย ขณะที่การรักษาสุขภาพกายและใจเน้นเรื่องประสบการณ์ที่แตกต่าง ดูแลลูกค้าแบบระดับหรู โดยเมื่อมาถึงรีสอร์ทจะมีที่ปรึกษาการดูแลสุขภาพสอบถามว่าลูกค้ามีเป้าหมายดูแลสุขภาพแบบไหน เช่น อยากผ่อนคลายเพราะเครียด อยากออกกำลังกายเพราะต้องการร่างกายที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม ก็จะจัดโปรแกรมการดูแลสุขภาพให้ตามความต้องการ
ภายในรีสอร์ทจะมีสปาที่เน้นเรื่องการบำบัดรักษา เป็นสปาทรีตเมนต์เพื่อบำบัดด้วยอุณหภูมิของน้ำ ผสมผสานการอาบน้ำแบบตุรกีกับศาสตร์การบำบัดของไทยและผ่อนคลายในห้องเกลือ มีกิจกรรมออกกำลังกาย โยคะ พิลาทิส อควาแอโรบิก ทัวร์ขี่จักรยาน มีโปรแกรมดูแลจิตใจ มีโปรแกรมล้างพิษ นำมาทำเป็นโปรแกรม 5 อย่างเลือกให้เข้ากับความต้องการของผู้เข้าพัก ได้แก่ อมาธารา ดีทอกซ์ เน้นล้างพิษ อมาธารา เวต แมเนจเมนต์ เน้นดูแลน้ำหนัก อมาธารา สปา รีไวซ์ เน้นการผ่อนคลาย และอมาธารา คัปเปิ้ล คอนเน็ก สำหรับคู่รักมาผ่อนคลาย เพื่อรองรับแนวโน้มคู่รักที่มาฮันนีมูนไปด้วยดูแลสุขภาพไปด้วย
ตั้งแต่เปิดตัวเป็นอมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ได้รับกระแสตอบดีทั้งจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมาสามารถทำอัตราเข้าพักได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ลูกค้าครึ่งหนึ่งเป็นเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็น ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย
ปีนี้ตั้งเป้าหมายว่า การเป็นอมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบสมัยที่เป็นโรงแรมรีเจ้นท์ และหลังจากนี้ควรเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี เป็นผลจากการใช้บริการสุขภาพ ทำให้ลูกค้าพักระยะยาวขึ้น ใช้เวลาในรีสอร์ทมากขึ้น เพื่อทำกิจกรรมและดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งก็จะทำให้การใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้นด้วย
“กลุ่มดูแลสุขภาพเป็นนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง ศึกษาข้อมูลทุกอย่างก่อนใช้บริการ มักเลือกโปรแกรมในใจมาก่อน เพราะมีเป้าหมายของตัวเองชัดเจนว่าต้องการอะไร เมื่อมาถึงโรงแรมจะดูโปรแกรมที่ลูกค้าต้องการว่าต้องปรับอะไรบ้างให้เหมาะกับร่างกายลูกค้า”
สำหรับปีหน้าจะเน้นแนะนำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้นเพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ เจาะจงไปที่ยุโรป ออสเตรเลีย ขณะเดียวกันจะให้ความสำคัญการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่เคยมาใช้บริการแล้วผ่านการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (ซีอาร์เอ็ม) อีกทั้งมีแผนขยายไปเจาะกลุ่มลูกค้าที่มาจัดประชุมสัมมนาแล้วต้องการเน้นดูแลสุขภาพของผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาด้วย โดยรองรับได้ 80-100 คน
ปรารถนา กล่าวว่า ที่ผ่านมากว่าจะเป็นอมาธาราก็ลงทุนปรับปรุงต่อเนื่อง ไตรมาส 4 ปี 2558 เปิดตัวสปาไทยฮัมมัม ไตรมาสแรกปีนี้เปิดตัวห้องอาหารสุขภาพ ไตรมาส 2 ยกระดับห้องประชุมรองรับจำนวนผู้ร่วมงานได้มากขึ้น และรองรับตลาดแต่งงานได้ ไตรมาส 3 นี้ลงทุนเพิ่มพูล วิลล่า จากปัจจุบันมี 35 หลัง จะนำพาวิลเลียนเดิมที่ไม่มีสระว่ายน้ำมาปรับเป็นพูล วิลล่า อีก 17 หลัง ส่งผลให้มีพูล วิลล่า 52 หลัง คิดเป็นครึ่งหนึ่งของห้องพักทั้งหมด คาดว่าจะเสร็จไตรมาส 4
ด้านธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตมีศักยภาพขยายตัวสูง ส่วนหนึ่งเพราะการลงทุนขยายสนามบินจะเสร็จเดือน ก.ย.นี้ ทำให้รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มเป็น 13 ล้านคน/ปี จากปัจจุบัน 6.5 ล้านคน/ปี ซึ่งปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยว 5 เดือนแรกที่ยังไม่มีการขยายสนามบิน ก็เพิ่มแล้วจากปีก่อน 19% ทำให้อัตราเข้าพักโรงแรมในภูเก็ตเพิ่ม 9% ถ้าเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า 3 ปีข้างหน้าจะมีโรงแรมเปิดใหม่ 32 แห่ง ทำให้จำนวนห้องพักเพิ่ม 5,500 ห้อง ดังนั้นการแข่งขันในตลาดก็จะสูงขึ้น แต่เชื่อว่าโรงแรมเน้นกลุ่มรักสุขภาพ ซึ่งกลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คู่แข่งหลักจึงมีเพียงโรงแรมที่เน้นเรื่องสุขภาพเหมือนกัน และอมาธารามั่นใจจุดเด่นบริการสุขภาพแบบองค์รวมที่โรงแรมอื่นในตลาดไม่มี จะทำให้แข่งขันได้ จากนี้คงได้เห็นโรงแรมหันไปเจาะกลุ่มนิช มาร์เก็ต มากขึ้น เหมือนอมาธาราแน่


