posttoday

ทรูยูมาสเตอร์การ์ด

11 สิงหาคม 2559

ทรูยูปรับรูปแบบบัตรสมาชิกเป็นมาสเตอร์การ์ดแบบเติมเงิน พร้อมเพิ่มงบ 20% มัดใจลูกค้ายุคดิจิทัล 

ทรูยูปรับรูปแบบบัตรสมาชิกเป็นมาสเตอร์การ์ดแบบเติมเงิน พร้อมเพิ่มงบ 20% มัดใจลูกค้ายุคดิจิทัล 

ฐานพล มานะวุฒิเวช ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และบริหารความสุขลูกค้า บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรูมูฟเปิดให้บริการบัตรทรูการ์ดมานานกว่า 5 ปี เพื่อเป็นบริการเสริมด้านการกิน ช็อป เที่ยว สำหรับลูกค้าที่มียอดการใช้จ่าย 3,000 บาทขึ้นไป นาน 6 เดือน หากใช้งานนาน 10 ปี ยอดใช้จ่ายอยู่ที่ 2,000-2,999 บาท

สำหรับสมาชิกทรูวิชั่นส์แพลทินัมจะได้รับสิทธิทรูแบล็กการ์ดทันที ส่วนบัตรเรดการ์ดจะต้องมียอดการใช้จ่ายตั้งแต่ 2,000-2,999 บาท ติดต่อกันนาน 6 เดือน หรือใช้จ่าย 500-1,999 บาท ติดต่อกันนาน 5 ปี โดยขณะนี้ทรูมีลูกค้าสมาชิกบัตรทรูการ์ดรวมแล้วกว่า 1.87 ล้านราย แบ่งเป็น เรดการ์ด 1.7 ล้านราย และแบล็กการ์ด 1.7 แสนราย

“ปีนี้ทรูใช้งบเพิ่มอีก 20% คือประมาณ 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็น งบสำหรับแบล็กการ์ด 1,200 ล้านบาท และเรดการ์ด 1,400 ล้านบาท เพราะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นและลูกค้าใช้สิทธิประโยชน์กว่า 10 ล้านครั้ง/เดือน” ฐานพล กล่าว

ทั้งนี้ บัตรมาสเตอร์การ์ดดังกล่าวจะผูกบัตรกับแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า ทรูมันนี่ วอลเล็ต (True Money Wallet) และทรูยู (True You) โดยลูกค้าจะต้องลงทะเบียนบัตรผ่านแอพทรูมันนี่ เพื่อความสะดวกในการเติมเงินเข้าบัตรก่อน จากนั้นสามารถเช็กสิทธิประโยชน์และคะแนนสะสมผ่านแอพทรูยูได้

ขณะนี้ทรูมีพาร์ตเนอร์และร้านค้าในระบบกว่า 1.5 หมื่นร้านค้าทั่วประเทศ โดยสัดส่วนการมอบสิทธิพิเศษจะแบ่งเป็น ร้านอาหาร 60% ช็อปปิ้ง 25% และสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งบันเทิง 15% สำหรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ในแต่ละธุรกิจให้มากขึ้น เพื่อสะสมแต้มและนำไปใช้ในการแลกของรางวัลผ่านแอพหรือหน้าร้านได้สะดวกขึ้น เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าหันมาใช้งานบัตรมาสเตอร์การ์ดนี้กันมากขึ้น

การใช้งานบัตรเหมือนกับบัตรเครดิตทั่วไป คือสามารถใช้จ่ายออนไลน์ หรือเครื่องรับบัตรที่เปิดให้ชำระผ่านบัตรมาสเตอร์การ์ดได้ และเช็กคะแนนสะสมหรือวงเงินในบัตรผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อความสะดวก ถือเป็นการอัพเกรดให้ลูกค้าทรูใช้บริการได้สะดวกขึ้น

ข่าวล่าสุด

Gemini ใน Google สู่การแปล 20 ภาษาผ่านหูฟังแบบเรียลไทม์