เยลลี่พร้อมดื่ม "คุมะ" พลิกวิกฤต สู่แบรนด์แห่งโอกาส

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

ท่ามกลางการแข่งขันทางธุรกิจในไทยที่รุนแรงมากขึ้น และการเข้ามาของเทคโนโลยีที่เป็นเปลี่ยนอุตสาหกรรมจำนวนมาก รวมถึงมีกลุ่มทุนจีนเข้ามาในประเทศมากขึ้น กระทบต่อธุรกิจไทยหลายกลุ่ม แต่มีบริษัทไทยสายพันธุ์สุดแกร่ง สามารถพลิกธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว จึงสร้างธุรกิจใหม่ให้เติบโตได้อย่างดีและเปลี่ยนคำว่า “วิกฤต” สู่การสร้างโอกาสใหม่ได้สำเร็จ

“ธนศิษฐ์ อภิฉัตรธัชพงศ์” กรรมการบริหาร บริษัท คุมะ ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่ม เยลลี่พร้อมดื่มแบรนด์ “คุมะ” เปิดเผยว่า แบรนด์เยลลี่พร้อมดื่มคุมะ เข้ามาทำตลาดในไทยมาประมาณ 3 ปีแล้ว และสร้างธุรกิจได้เติบโต 3 เท่าตัว นับจากปี 2557 ที่เริ่มทำตลาด สิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์เติบโตและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า มาจาก การนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพในราคาคุ้มค่าต่อผู้บริโภค การทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ การมีพันธมิตรทางธุรกิจแข็งแกร่ง และบริหารต้นทุนได้เหมาะสม และการพร้อมปรับตัวศึกษาตลาด หาโอกาสใหม่ต่อเนื่อง

“คุมะ” ยังได้มีการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศ เพื่อร่วมศึกษาพัฒนาสินค้า มีทีมวิจัยและพัฒนาสินค้า เพื่อสร้างสินค้าแตกต่าง และได้ทำตลาดผ่านช่องทางร้านค้าในประเทศ เพราะมีพันธมิตรที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าคือ บริษัท แมสมาร์เกตติ้ง ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้ได้ดี อีกทั้งมีการส่งออกสินค้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน หลายประเทศ ทั้งประเทศจีน กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย

“ธนศิษฐ์” กล่าวต่อว่า การทำแบรนด์คุมะ จุดเริ่มต้นสำคัญมาจากการธุรกิจก่อนหน้านี้ คือ การเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนให้แก่กระเป๋า และรองเท้า เช่น ผลิตหูกระเป๋า และโบว์รองเท้า เป็นต้น ประสบปัญหาตลาดชะลอตัวลง และมีคู่แข่งจากประเทศจีน เข้ามาในประเทศและขายสินค้าราคาถูก ทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจดังกล่าวมาเป็นระยะเวลา 10 ปี ยอดขายชะลอตัวลง อีกทั้งโรงงานที่อยู่ใน พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้ประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ปี 2554 หลังจากนั้นปี 2555 ตลาดซบเซาลงต่อเนื่อง เป็นจุดสำคัญต้องกลับมาทบทวนธุรกิจใหม่

“ผมทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนให้แก่รองเท้าและกระเป๋ามานานกว่า 10 ปี ธุรกิจเติบโตดีต่อเนื่อง แต่ช่วงหลังธุรกิจเริ่มชะลอตัวและมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น โดยแฟนได้แนะนำเรื่องธุรกิจอาหาร เพราะไทยเป็นเมืองอาหาร ทำให้สนใจธุรกิจเครื่องดื่ม ศึกษาและพัฒนาออกมาเป็นแบรนด์ คุมะ และใช้พื้นที่โรงงานแห่งเดิมผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งผมเชี่ยวชาญด้านโรงงานเครื่องจักร เพราะเรียนจบมาทางด้านวิศวกรรม แต่ไม่ถนัดเรื่องการตลาด จึงหาพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านตลาดคือ บริษัท แมสมาร์เกตติ้ง ร่วมมือกระจายสินค้า”ธนศิษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้แบรนด์ คุมะ เยลลี่พร้อมดื่ม ถือเป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีมาก่อน กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มเด็กและวัยรุ่น และกลุ่มคนทำงาน อีกทั้งกำหนดราคาขายสินค้า 10 บาท จึงเข้าถึงลูกค้าหลากหลาย ซึ่งการทำตลาดในช่วงแรกยอดขายอาจจะไม่เติบโตมากนัก แบรนด์มีการปรับแผน ปรับสินค้า รสชาติ บรรจุภัณฑ์ รวมถึงราคา จึงสร้างยอดขายเติบโตได้ดีต่อเนื่อง และมีรสชาติตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

อีกทั้งการกำหนดราคาขายดังกล่าว บริษัทต้องดูแลต้นทุน และการบริหารจัดการในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับกำหนดมาตรฐานสินค้าที่ดีแก่ผู้บริโภค สร้างสินค้ามีคุณภาพ เพราะความซื่อสัตย์และมาตรฐานสินค้าที่ปลอดภัย ซึ่งมีความสำคัญต่อลูกค้าสูงสุด

“การทำธุรกิจเราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามา มีปัจจัยใหม่เปลี่ยนไป เมื่อโลกเปลี่ยน เราต้องยอมรับและหาทางเปลี่ยนแปลง หาทางศึกษาธุรกิจใหม่ ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เพื่อทำให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไป หากไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงและทำธุรกิจแบบเดิม ธุรกิจมีโอกาสหายไปจากตลาดแน่นอน เราต้องเรียนรู้พลิกวิกฤต สร้างโอกาสใหม่”ธนศิษฐ์ กล่าว

บริษัทกำลังขยายการลงทุนใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าขึ้นอีก 3 เท่าตัว โดยได้รับการส่งเสริมสินเชื่อจาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สาขาอ้อมน้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560 เพื่อรองรับการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกับเตรียมเพิ่มสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มดูแลสุขภาพ คาดว่าจะเห็นในปีหน้า ซึ่งการลงทุนใหม่ในครั้งนี้ บริษัทได้ศึกษาตลาด และวิเคราะห์ความเสี่ยงของธุรกิจอย่างรอบคอบ จึงมั่นใจในการลงทุน

“ธนศิษฐ์” กล่าวต่อว่า บริษัทได้วางเป้าหมายในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะสร้างแบรนด์ คุมะ ทำให้ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น พร้อมเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และเพิ่มการส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ รวมถึงระยะยาว ต้องการสร้างแบรนด์ เครื่องดื่ม ให้ติดอยู่ในอันดับหนึ่งในสิบของแบรนด์เครื่องดื่มในประเทศไทย