หมี่กรอบพรหมสร หนุนรุ่นใหญ่รับสังคมสูงวัย

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

หลายประเทศในโลกรวมทั้งไทยกำลังเคลื่อนเข้าสู่ยุค “ซีเนียร์ โซไซตี้” สังคมผู้สูงวัย ที่ในเวลานี้ภาครัฐเร่งขับเคลื่อนแผนตั้งรับประชากรกลุ่มดังกล่าวในอนาคต โดยเฉพาะแนวคิดการยืดขยายแรงงานกลุ่มคนรุ่นใหญ่ที่มีความเก๋าทั้งหลักคิด ทักษะการทำงาน รวมถึงแรงงานที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะ เช่นเดียวกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรมะขามทอง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้นำร่องกลุ่มผู้สูงวัยเข้าสู่กระบวนการสร้างอาชีพเสริม ในฐานะผู้ผลิตสินค้าหมี่กรอบสูตรสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายใต้แบรนด์ “พรหมสร” มาระยะหนึ่งแล้ว 

จตุพร อินทรโสภา ประธานวิสาหกิจฯ มะขามทอง เล่าถึงการทำหมี่กรอบฯ ที่สืบทอดสูตรฯ มาตั้งแต่รุ่น “อาม่า” ซึ่งหาบขนมจีนน้ำยาขายให้กับทหารญี่ปุ่นที่เข้ามาสร้างทางรถไฟในเมืองกาญจน์ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะนั้นใช้วัตถุดิบดั้งเดิมอย่างเส้นขนมจีนนำมาทอดจนเหลืองกรอบ พร้อมนำมาคลุกเคล้าด้วยซอสที่ปรุงรสด้วยส่วนผสมจากน้ำตาลโตนด เกลือเม็ด และน้ำมะขามเปียก ก่อนปรับสูตรและวัตถุดิบเป็นเส้นหมี่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่เป็นแรงงานหลักของวิสาหกิจฯ มะขามทองกว่า 100 คน โดยกว่า 50% จะเป็นกลุ่มแม่บ้านรุ่นใหญ่อายุเฉลี่ยราวๆ 60-72 ปี ที่ยังขยันขันแข็ง มีความอดทนและตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญพร้อมปรับตัวเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หมี่กรอบพรหมสรให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ตลาดต้องการ โดยเฉพาะการเข้าร่วมโครงการท็อปส์เพื่อเกษตรไทย ร่วมใจประชารัฐ จากการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตท็อปส์จำนวน 58 สาขา จากสาขาทั้งสิ้นกว่า 170 แห่งทั่วประเทศในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้มีการรวมกลุ่มแม่บ้าน ต.มะขามทอง ครั้งแรกเมื่อราวปี 2541 เพื่อพัฒนาและแปรรูปวัตถุถิบต่างๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่นอย่าง พืช สมุนไพรในครัวเรือนให้มีมูลค่าเพิ่ม และที่สำคัญเพื่อลดปัญหาการว่างงานของคนในชุมชน จากนั้นในปี 2545 จึงได้เริ่มจดทะเบียนเป็นกลุ่มแม่บ้าน ต.มะขามทอง พร้อมสร้างแบรนด์หมี่กรอบ “พรหมสร” ขึ้นอย่างจริงจังเมื่อ 3 ปีก่อน ปัจจุบันมีสมาชิกผู้ผลิตหมุนเวียนราว 72 คน และเป็นสมาชิกผลิตถาวรราว 20 คน

“กลุ่มแม่บ้านมะขามทองมีศักยภาพในการทำหมี่กรอบอย่างมาก ด้วยเป็นงานที่มีความถนัดและสร้างรายได้ให้กับแรงงานผู้สูงวัยกลุ่มนี้ แต่ละรายมีรายได้เฉลี่ย 9,000 บาท/คน ซึ่งทางวิสาหกิจฯ ได้นำการบริหารจัดการเข้ามาปรับใช้ โดยพยายามจ่ายค่าแรงเป็นรายวัน พร้อมเงินพิเศษจากการทำงานล่วงเวลา (โอที) และระบบเงินปันผลให้กับสมาชิกด้วย” จตุพร เสริม

จากเดิมอาชีพทำกินของกลุ่มแม่บ้าน ต.มะขามทอง จะเป็นภาคการเกษตร ทำนำ ทำไร่ ปลูกอ้อย หรือมันสำปะหลัง เมื่อว่างเว้นจากฤดูกาลเพาะปลูกก็จะไม่มีอะไรทำ แต่เมื่อมีวิสาหกิจฯ เกิดขึ้น เพื่อสร้างอาชีพเสริมให้กับชุมชน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดี โดยล่าสุด บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ผู้บริหารเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ เตรียมผลักดันให้เป็น “ชุมชนต้นแบบ” ประจำ จ.กาญจนบุรี จากการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงและกระจายรายได้ถึงชาวบ้านและชุมชนใกล้เคียง จากการรับซื้อวัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อนำมาผลิตหมี่กรอบ

สำหรับยอดขายหมี่กรอบพรหมสร ในปี 2556 อยู่ที่เกือบ 6 แสนบาท และในปี 2557 มียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว หรือราว 1.7 ล้านบาท และในปี 2558 มียอดขายราว 1.8 ล้านบาท และในปี 2559 นี้ ตั้งเป้ายอดขายไว้ 2 ล้านบาท