กรุงศรีเสริมทัพธุรกิจไทยแกร่ง สร้างโอกาส เปิดตลาด CLMV

แบงก์กรุงศรีหนุนผู้ประกอบการไทยสร้างการเติบโตทางธุรกิจใน CLMV เจาะลึกโอกาสการลงทุน พร้อมถอดสมการความสำเร็จการบริหารจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ร่วมด้วยเครือข่ายและพันธมิตรให้คำปรึกษา ในงานสัมมนา "สร้างโอกาส เปิดตลาด CLMV"

เมื่อน่านน้ำทางธุรกิจเปิดกว้างกว่าการแข่งขันในประเทศ ผู้ประกอบการไทยพร้อมข้ามพรมแดนขยายอาณาจักรทางธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วยกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามตามจังหวะและโอกาสที่เล็งเห็นในการสร้างการเติบโตจากฐานธุรกิจที่มีจำนวนประชากรมากกว่า 170 ล้านคนหรือมากกว่าในประเทศเป็นเท่าตัว

ท่ามกลางโอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการไทยในการรุกตลาด CLMV นอกเหนือจากการสนับสนุนบริการทางการเงิน เครือข่าย และพันธมิตรในการให้คำปรึกษา ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ยังสนับสนุนการเปิดตลาดกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ภายใต้ความร่วมมือกับ กลุ่ม มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเซียล (Mitsubishi UFJ Financial Group หรือ MUFG) ด้วยการจัดงานสัมมนา Krungsri Business Talk ในหัวข้อ "สร้างโอกาส เปิดตลาด CLMV" สำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการ SME ไทยที่สนใจการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศ CLMV โดยพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดงาน

"CLMV มีตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจตลอด 5 ปีที่ผ่านมาถึง 7% และยังมีจำนวนประชากรรวม 4 ประเทศเกือบ 170 ล้านคน อีกทั้งผู้เข้าไปลงทุนยังจะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) จึงทำให้มีนักธุรกิจจำนวนมากมองเห็นโอกาสในการลงทุนเพื่อให้ได้สิทธิพิเศษดังกล่าว ซึ่งธนาคารกรุงศรี มีความพร้อมในด้านบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ในแต่ละประเทศรวมถึงสาขาธนาคารกรุงศรีและเครือข่าย MUFG ใน CLMV เพื่อดูแลลูกค้าธนาคาร" ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าธุรกิจ SME สาขากลาง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองตลาด CLMV และการให้คำปรึกษาทางการค้าการลงทุนในต่างประเทศ

ภายในงานสัมมนา "สร้างโอกาส เปิดตลาด CLMV" ยังได้รับเกียรติจากชลลดา อารีรัชชกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกถึงโอกาสการลงทุนและโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ พร้อมทั้งบทบาทการสนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศของบีโอไอ เช่น การตั้งกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ เพื่อรับผิดชอบการลงทุนให้เป็นรูปธรรม โดยมีการให้ข้อมูลอย่างครบวงจร พร้อมทีมที่ปรึกษา รวมถึงการพานักธุรกิจไปสำรวจลู่ทางการลงทุนในประเทศต่างๆ

"แนวคิดในการลงทุนให้พิจารณาจาก 3 ปัจจัย คือ ลงทุนอะไร (What) ลงทุนเมื่อไร (When) และลงทุนอย่างไร (How) ซึ่งการลงทุนไม่ได้หมายถึงการสร้างโรงงานเพียงอย่างเดียว แต่อาจหมายถึงการสร้างศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center) หรือที่จัดเก็บสินค้า (Warehouse) ก็ได้" อรรจน์สิทธิ สร้อยทอง นักวิชาการส่งเสริมการลงทุนชำนาญการพิเศษกองส่งเสริมการลงทุนไทยต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนขยายความเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันตัวแทนเครือข่ายและพันธมิตรของกรุงศรีในกลุ่มประเทศ CLMV ร่วมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการลงทุนในแต่ละประเทศ ทั้งด้านพฤติกรรมผู้บริโภคและข้อกำหนดทางการเงินที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ นำโดย บีไยกุมาร ปานเดย์ International Brand Manager บริษัท ซาบิน่า ฟาร์อีสท์ จำกัด ซึ่งให้คำแนะนำการทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ว่า นักธุรกิจความลงพื้นที่ด้วยตนเอง หรือเข้าร่วมงานแฟร์ที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานต่างๆ เพื่อศึกษาตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคว่าชอบหรือไม่ชอบสินค้าแบบไหน เพื่อนำมาปรับปรุงสินค้า

ส่วน Mr.Kazuhiro Nishikawa, Chief Representative, BTMU Representative Office in Phnom Penh, Cambodia กล่าวว่า แม้การลงทุนในกัมพูชาจะมีข้อดีเรื่องข้อจำกัดกฎเกณฑ์ทางการเงินน้อย ทำให้คนต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่าย และการโอนเงินข้ามพรมแดนเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯหรือสามารถเปิดบัญชีที่เป็นเงินบาทได้ แต่การลงทุนที่ยังไม่มีสถาบันประกันเงินฝากยังเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรระมัดระวัง

นอกจากนั้น ตัวแทนเครือข่ายของธนาคารยังแสดงความพร้อมให้บริการด้านคำปรึกษาและสนับสนุนการลงทุน ไมว่าจะเป็น รมเกียรติ แก้วรัตนอัมพร ผู้จัดการสำนักงานตัวแทนธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประจำกรุงย่างกุ้ง และดร.กานต์ ปฏิเวธวรรณกิจ ผู้จัดการธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด สาขาย่างกุ้ง ซึ่งย้ำถึงการสนับสนุนด้านข้อมูลทันสมัย ทันเหตุการณ์ แนวโน้มนโยบายด้านเศรษฐกิจ สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในเมียนมา รวมทั้งการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับเอกชน

ด้านลงทุนในลาวที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีสำหรับสินค้าส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งชัชวาล เพิ่มสุขจารุทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สปป ลาว กล่าวว่า ธนาคารกรุงศรีฯมีความพร้อมให้คำปรึกษาจากประสบการณ์การให้บริการในลาวเป็นเวลากว่า 22 ปี ขณะที่เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีความท้าทายมากที่สุดในกลุ่ม CLMV จากกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดย Mr.Seiichi Terano, Manager, BTMU Hanoi Branch และ Mr.Ly Minh Quang, Senior RM , Vietnam Joint Stock Commercial Bank for Industry and Trade ย้ำถึงความมั่นใจในประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 100 ปีในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าประเทศเวียดนาม ทั้งยังเป็นพันธมิตรกับ Vietin Bank ธนาคารชั้นนำมีเครือข่ายครอบคลุมในเวียดนาม ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมด้านการลงทุน

งานสัมมนา "สร้างโอกาส เปิดตลาด CLMV" นับเป็นหนึ่งในหลายกิจกรรมที่กรุงศรีมุ่งเน้นการให้ข้อมูลความรู้อันเป็นพื้นฐานสำคัญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มโอกาสการดำเนินธุรกิจ ด้วยความมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่เข้าร่วมงานมีความเข้าใจในเชิงลึก และเตรียมตัวให้พร้อมเสมอสำหรับโอกาสการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV โดย กรุงศรีพร้อมเป็นทีมเวิร์คกับลูกค้าธุรกิจ ด้วยการมอบบริการทางการเงินที่ครบวงจรและสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจ