‘พานิชชีวะ’ไม่รวมกิจการ
สร้างบริษัทประกันภัยในเครือกรุงไทยพานิชไทยศรีฯยืนได้โพสต์ทูเดย์
— ตระกูลพานิชชีวะ ไม่สนแผนควบรวมกรุงไทยพานิชกับไทยศรีประกันภัย มั่นใจฐานะแข็งแกร่ง ต่างคนต่างเดินหน้าธุรกิจนายกีรติ พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย เปิดเผยว่า ตระกูลพานิชชีวะยังไม่มีแผนที่จะนำบริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย ไปควบรวมกับบริษัท ไทยศรีประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลอีกแห่งหนึ่งแต่อย่างใด แม้หากมีการควบรวมกิจการเกิดขึ้นจะทำให้บริษัทมีขนาดธุรกิจเติบโตขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 ของตลาดก็ตาม
ทั้งนี้ ผู้บริหารทั้งสองบริษัทซึ่งเป็นพี่น้องกัน มองว่าแต่ละบริษัทยังไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมกิจการกัน และแนวทางการทำธุรกิจหรือกลุ่มลูกค้าของทั้งสองบริษัทก็แตกต่างกัน แต่ปัจจุบันก็สามารถส่งเสริมธุรกิจซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยในส่วนของบริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย ก็มีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ถือหุ้นหลักถึง 45% เน้นฐานลูกค้ารายย่อยและฐานลูกค้าของธนาคารกรุงไทย ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้ารายย่อยอยู่ 34 แสนกรมธรรม์ หรือคิดเป็นรายชื่อลูกค้าหลายล้านราย ขณะที่บริษัท ไทยศรีประกันภัย เน้นฐานลูกค้าของตัวเอง
“
เรื่องความแข็งแกร่งด้านเงินทุนไม่ต้องห่วง ตอนนี้เรามีเงินกองทุนอยู่ 3,700 ล้านบาท และหากวัดตามเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยง หรืออาร์บีซี ที่จะใช้ในปีหน้า เราก็เกินอยู่ถึง 600% ขณะที่กฎหมายกำหนดขั้นต่ำให้อยู่ที่ 150% และยังมีเงินลงทุนอยู่อีก 4,000 ล้านบาท” นายกีรติ กล่าวอย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลทางธุรกิจเรื่องการซื้อกิจการเพื่อเสริมความแข็งแกร่งอยู่เหมือนกัน หากพบว่าสร้างโอกาสที่ดีทางธุรกิจ รวมถึงแผนการนำบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัททำเบี้ยได้ตามเป้าที่ 900 ล้านบาท และมีกำไรเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 และคาดว่าทั้งปีจะทำได้ประมาณ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่ทำเบี้ยได้ 1,600 ล้านบาท ซึ่งช่องทางขายหลักในปัจจุบันมาจากธนาคารกรุงไทยถึง 50% ส่วนที่เหลือเป็นช่องทางขายทางโทรศัพท์ ตัวแทน และบริษัทนายหน้า และมีฐานลูกค้าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 27% และเบี้ยที่ไม่ใช่รถยนต์ หรือนันมอเตอร์ 73%


