posttoday

ค้าปลีกลุยขายออนไลน์ รับกระแสลูกค้านิยมรูดปรื๊ด

01 มิถุนายน 2559

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายในตลาดอี-คอมเมิร์ซสูงกว่า 2 ล้านล้านบาท

โดย...จะเรียม สำรวจ

จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายในตลาดอี-คอมเมิร์ซสูงกว่า 2 ล้านล้านบาท และในปีนี้ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20% ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าปลีกต่างออกมาปรับแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดก้อนดังกล่าว

นอกจากนี้ การที่ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้ามากขึ้นทั้งในส่วนของออฟไลน์และออนไลน์ ยิ่งทำให้ห้างค้าปลีกเล็งเห็นโอกาสในการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยล่าสุดบริษัท ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น เซ็นทรัล สมาร์ท ช็อปเปอร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับการทำตลาดออฟไลน์ หรือการขายสินค้าผ่านหน้าร้านอย่างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างเซน และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการรวมกัน 23 สาขาทั่วประเทศ

ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างแอพพลิเคชั่น เซ็นทรัล สมาร์ท ช็อปเปอร์ คือ การที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมีการทำโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้ทราบว่าปัจจุบันลูกค้ากว่า 70% ซื้อสินค้าโดยผ่านบัตรเครดิต ส่วนที่เหลือ 30% ใช้เงินสด จึงทำให้เล็งเห็นโอกาสพัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเข้ามาทำตลาด

การพัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าว จะแบ่งออกเป็น 3 เฟส ใช้เวลา 2 ปีในการพัฒนาด้วยงบลงทุนกว่า 10 ล้านบาท โดยเฟสแรกเป็นการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่ออำนวยความสะดวกในการช็อปปิ้ง เนื่องจากจะมีการคำนวณโปรโมชั่น บัตรเครดิต เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิตได้ตามความต้องการ ส่วนเฟสที่ 2 จะเริ่มพัฒนาหลังจากนี้ 6 เดือน คาดว่าทั้ง 3 เฟสน่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560

จุดประสงค์หลักในการสร้างแอพพลิเคชั่นนี้ คือ อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งจะทำให้การช็อปปิ้งผ่านบัตรเครดิตเป็นเรื่องง่ายและเอื้อต่อการตัดสินใจซื้อ  เนื่องจากสามารถตอบคำถามเรื่องของส่วนลด ยอดสุทธิที่ลูกค้าต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิตนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยขณะนี้มีพันธมิตรบัตรเครดิตที่เข้ามาร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านแอพพลิเคชั่น เซ็นทรัลสมาร์ท ช็อปเปอร์ แล้วกว่า 20 ธนาคาร

ทั้งนี้ หลังจากทดลองเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา มีลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นแล้ว 1 หมื่นดาวน์โหลด คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดดาวน์โหลดไม่ต่ำกว่า 1 แสนดาวน์โหลด และผลักดันให้ภาพรวมสิ้นปี 2559 มีรายได้เติบโตมากกว่า 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้านห้างสรรพสินค้าโรบินสันก็ได้รุกทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้ชื่อ คลิก แอนด์ คอลเล็กต์ ให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้า ณ จุดคีออสก์ผ่านระบบออนไลน์ และมารับสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันในสาขาที่ลูกค้าสะดวก รวมทั้งพัฒนาเว็บไซต์ www.robinson.co.th  เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าของห้างสรรพสินค้าโรบินสันได้สะดวกมากขึ้น พร้อมบริการจัดส่งรวดเร็วทันใจฟรีทั่วประเทศ โดยโรบินสันมั่นใจว่าจะเป็นอันดับ 1 ของช่องทางช็อปปิ้งออนไลน์ได้ในปี 2563

ในส่วนเดอะมอลล์ ก็ยังคงซุ่มเงียบพัฒนาเทคโนโลยีทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นเบื้องต้นมีข่าวออกมาว่าจะพร้อมเปิดตัวช็อปปิ้งออนไลน์โฉมใหม่ในปลายปีนี้ พร้อมเปิดศูนย์การค้าบลูพอร์ตที่หัวหิน

ในฝั่งของห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์และห้างเทสโก้ โลตัส ก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีช็อปปิ้งออนไลน์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดย อรสุรางค์ กีรติชีวนันท์ ผู้อำนวยการด้านบริหารจัดการสินค้าออนไลน์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจช็อปปิ้งออนไลน์ของบิ๊กซีฯ มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 30% ส่วนภาพรวมยอดขายเติบโต 75% ซึ่งสินค้าที่ลูกค้านิยมซื้อมากที่สุด คือ มือถือและเครื่องใช้ในครัวเรือน โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ 70% ซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิต เนื่องจากมีความสะดวก

เช่นเดียวกับห้างเทสโก้ โลตัส ที่มียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่่อง โดยล่าสุดได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น “Tesco Lotus Shop Online” ช่วยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งของสดของแห้ง และของแช่แข็งได้ง่ายขึ้นเพียงสแกนบาร์โค้ดจากสินค้า

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์เป็นเรื่องง่าย เพราะเพียงแค่เลือกแล้วคลิก แล้วจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมช็อปปิ้งออนไลน์จึงโตอย่างรวดเร็ว

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด การท่าเรือ พบ ทรู แบงค็อก ช้าง เอฟเอ คัพ วันนี้ 21 ธ.ค.68