FoodStory ครบเครื่องร้านอาหาร

อุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญกับประเทศไทยคือ “อาหาร” ที่ทิศทางขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และมีจำนวนสาขาของร้านอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้สตาร์ทอัพไทยได้พัฒนา “แอพพลิเคชั่น” ใหม่ที่กำลังเปลี่ยนโฉมธุรกิจร้านอาหารและตลาดอาหารไทยกับ “FoodStory” ที่เป็นหนึ่งแอพพลิเคชั่นที่มากกว่าเรื่องอาหาร

“ฐากูร ชาติสุทธิผล” ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น FoodStory โดยได้สร้างระบบให้เจ้าของธุรกิจร้านอาหารและลูกค้าได้มาพบกัน หรือการสร้างระบบ Ecosystem อย่างครบวงจรในธุรกิจร้านอาหารและผู้ประกอบการ โดยได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นหลัก 2 ด้าน ได้แก่ 1.แอพพลิเคชั่นสำหรับ FoodStory Owner ที่เหมาะสำหรับกลุ่มเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร และ 2.แอพพลิเคชั่น สำหรับลูกค้าคือ FoodStory Customer

FoodStory มาจากแนวคิดที่ตัวเองมีความชื่นชอบเรื่องอาหาร ประกอบกับกลุ่มเพื่อนชอบให้ตัวเองค้นหาร้านอาหาร แต่ในระบบยังไม่มีฐานข้อมูลของร้านอาหารที่มีคุณภาพ ส่วนใหญ่จะเปิดกว้างให้คนทั่วไปมาเขียน ทำให้ตัวเองสนใจอยากสร้างรูปแบบ (แฟลตฟอร์ม) เกี่ยวกับร้านอาหาร ที่มีข้อมูลแท้จริงและให้คนที่มาเขียนความเห็นเป็นผู้ที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านจริงๆ

จึงได้เข้ามาศึกษาและเริ่มต้นจะพัฒนาระบบสำหรับธุรกิจอาหาร จากก่อนหน้านี้ได้ทำงานกับบริษัทเอกชนในด้านการวางระบบข้อมูล (ดาต้า) ให้แก่ภาคธุรกิจและสถาบันการเงิน จึงตัดสินใจมาเปิดบริษัทอย่างจริงจังมาประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา และมี “ชวิน ศุภวงศ์” ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจมาร่วมพัฒนาบริษัทพร้อมกัน ทั้งนี้การพัฒนาระบบสำหรับธุรกิจร้านอาหารอย่างสมบูรณ์ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี เนื่องจากธุรกิจร้านอาหารมีความซับซ้อนและข้อมูลจำนวนมาก

“FoodStory Owner” เหมาะสำหรับกลุ่มเจ้าของธุรกิจร้านอาหารสามารถใช้งานผ่านระบบออนไลน์บนเครื่องไอแพดได้ ที่จะจัดเก็บข้อมูลของร้านอาหารแบบเรียลไทม์ ทั้งยอดขาย การนำเสนอโปรโมชั่นใหม่ให้แก่ลูกค้า การนำเสนอเมนูใหม่ รวมถึงการบันทึกข้อมูลของธุรกิจร้านอาหาร ทำให้สามารถคำนวณต้นทุน ยอดขาย และกำไร รวมถึงลงลึกไปถึงการคำนวณยอดขายต้นทุนของอาหารแต่ละจานได้ การสต๊อกสินค้าถือเป็นระบบที่ครบวงจรมากสุด และมีฟังก์ชั่นให้ใช้งานกว่า 400 ฟังก์ชั่น มีความหลากหลาย อีกทั้งจัดเก็บข้อมูลอยู่บนระบบคลาวด์ ทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัย

“FoodStory Customer” สำหรับลูกค้าของร้านอาหารสามารถเข้ามาใช้งานผ่านระบบสมาร์ทโฟนและแอนดรอยด์ โดยเปิดให้ลูกค้าเข้ามาเรียนแนะนำความเห็นต่างๆ ถือเป็นข้อมูลจริงสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ

ฐากูร กล่าวต่อว่า บริษัทได้เริ่มทำตลาดอย่างจริงจังให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารมาประมาณ 1 ปี โดยในร้านอาหารที่เข้ามาใช้บริการกว่า 150 สาขา ทั้งในไทย ออสเตรเลีย และสิงคโปร์

“เดิมคิดว่าในปีแรกจะเริ่มผลิตสินค้าออกมาสู่ตลาดได้ แต่เมื่อพัฒนาแล้วพบว่าธุรกิจร้านอาหารมีรายละเอียดซับซ้อนต้องใช้เวลาพัฒนา มีทุนส่วนตัวและทุนครอบครัวมาสนับสนุน อีกทั้งทีมงานมีเป้าหมายตรงกัน เปรียบเสมือนเราเดินไปในอุโมงค์ที่ยังไม่เห็นปลายทาง แต่เราเชื่อว่าในวันหนึ่งจะเห็นแสงสว่างที่ปลายทาง” ฐากูร กล่าว

บริษัทวางเป้าหมายใน 1 ปีข้างหน้านี้จะขยายจำนวนร้านอาหารให้ได้ 1,000 สาขา ทั้งในไทย และต่างประเทศ ภายใต้แนวคิดการเป็นเพื่อนที่ดีสุดของร้านอาหารใน 3-5 ปีข้างหน้า จะมีบริการครบวงจรมากที่สุด ใช้เวลาการดาวน์โหลดข้อมูลอย่างรวดเร็วและใช้ได้ทุกที่ในโลก