posttoday

แห่ผุดสวนน้ำอีก 3-5 ปี หวังเป็นแม่เหล็กดูดคนเที่ยว

11 เมษายน 2559

การลงทุนสวนน้ำคงยังไม่อิ่มตัวง่ายๆ โดยใน 3-5 ปีจากนี้ น่าจะได้เห็นการลงทุนสวนน้ำขนาดเล็กและขนาดกลางอีกต่อเนื่อง

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นข่าวคราวการลงทุนสวนน้ำใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก และปี 2559 นี้ ก็มีสวนน้ำหลายขนาดต่อคิวเปิดตัว ซึ่งเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ ก็ถือฤกษ์เปิดตัวติดกันหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นสวนน้ำที่ใช้เครื่องเล่นแบบเป่าลม เช่น ใน จ.นครศรีธรรมราช 2 แห่ง กาญจนบุรี 1 แห่งชลบุรี 1 แห่ง และสระแก้ว 1 แห่ง

นอกจากนี้ ยังมีผู้ลงทุนสวนน้ำเดอะ ไพเรทส์ พาร์ค ใน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ประกาศมาแล้วว่าจะไปลงทุนสวนน้ำเดอะ ไพเรทส์ พาร์ค ที่ อ.เมือง จ.ตรัง ชวนให้สงสัยว่า การเปิดสวนน้ำจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้จะทำให้ทิศทางธุรกิจสวนน้ำถึงจุดอิ่มตัวของการลงทุนใหม่ๆ เร็วขึ้นหรือไม่

แหล่งข่าวจากวงการสวนน้ำ เปิดเผยว่า การลงทุนสวนน้ำคงยังไม่อิ่มตัวง่ายๆ โดยใน 3-5 ปีจากนี้ น่าจะได้เห็นการลงทุนสวนน้ำขนาดเล็กและขนาดกลางอีกต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนเพื่อรองรับคนในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ และจังหวัดใกล้เคียง และน่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนที่ต้องการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ หากจะซื้อที่ดินในเมืองจะมีต้นทุนที่ดินสูงมาก แต่หากซื้อที่ดินนอกเมืองจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่า ซึ่งการพัฒนาที่ดินนอกเมืองก็จำเป็นต้องอาศัยการลงทุนสวนน้ำเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ เพื่อเป็นแม่เหล็กเพิ่มความน่าสนใจให้โครงการ ลักษณะเหมือนสวนน้ำเป็นคลับเฮาส์รองรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ หากพิจารณาตามพื้นที่ที่ใช้สร้างสวนน้ำ สวนน้ำที่ใหญ่จะมีพื้นที่ส่วนที่ทำสวนน้ำจริงๆ เกิน 30 ไร่ ซึ่งปัจจุบันมีแค่สวนสยามและสวนน้ำรามายณะ พัทยา แต่ถ้าพิจารณาจำนวนผู้ใช้บริการ หากเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่จะมีผู้ใช้บริการเกิน 1 ล้านคน/ปี ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสวนสยามเท่านั้น ส่วนวานา นาวา หัวหิน วอเตอร์ จังเกิ้ล และการ์ตูน เน็ทเวิร์ค อเมโซน จัดเป็นสวนน้ำขนาดกลาง ที่ทำมารองรับผู้ใช้บริการเกิน 5 แสนคน/ปี ขณะที่สวนน้ำส่วนใหญ่ที่เกิดระยะหลังเป็นสวนน้ำขนาดเล็กที่ใช้เครื่องเล่นแบบเป่าลม ไม่ได้ลงทุนสูงมาก แค่มีที่ดินก็ทำได้รวดเร็ว

ทั้งนี้ การลงทุนสวนน้ำในอนาคตน่าจะเป็นขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งเป็นการลงทุนในจุดหมายท่องเที่ยวหลักที่ยังไม่มีสวนน้ำ หรือถึงแม้มีสวนน้ำอยู่แล้วก็เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งในโรงแรม เช่น จ.ภูเก็ต และเชียงใหม่ มากกว่าไปลงทุนในพื้นที่ที่มีสวนน้ำมากแล้วอย่าง หัวหิน หรือพัทยา

วุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพาร์ค บางกอก ผู้ดำเนินธุรกิจสวนน้ำ-สวนสนุก สวนสยาม กล่าวว่า การมีสวนน้ำเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องดีสำหรับสวนสยาม เพราะสมัยก่อนที่ยังไม่มีสวนน้ำอื่นเลย คนมักมองสวนสยามว่าคิดค่าบริการแพง แต่ปัจจุบันเมื่อเห็นราคาสวนน้ำใหม่ๆ แล้วกลับมาเปรียบเทียบราคาของสวนสยาม ก็ทำให้คนเกิดการรับรู้เรื่องความคุ้มค่าในการใช้บริการสวนสยามมากขึ้น เพราะนอกจากใช้สวนน้ำได้แล้วยังใช้สวนสนุกได้ด้วย โดยจากสถิติพบว่าลูกค้าแต่ละคนจะมาใช้บริการสวนน้ำ-สวนสนุกรวม 2 ครั้ง/ปี

ขณะที่สวนสยามมีแผนลงทุน 100-120 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสวนน้ำให้ทันสมัยขึ้นตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ครอบคลุมขึ้น โดยจะติดตั้งสไลเดอร์ที่สร้างความตื่นเต้นให้ผู้เล่นได้มากขึ้น เพราะมองเห็นแนวโน้มคนรุ่นใหม่ไปใช้บริการสวนน้ำใหม่ๆ นิยมเครื่องเล่นประเภทนี้ ซึ่งการนำมาติดตั้งเพิ่มในสวนสยามก็จะทำให้สวนน้ำของสวนสยามตอบโจทย์เรื่องประสิทธิภาพ และคุณภาพที่มอบให้ลูกค้ามากขึ้น โดยจะติดตั้งสไลเดอร์ 6 ตัว บนโครงสร้างใหญ่เดียวกัน และสไลเดอร์สำหรับเด็กอีก 3 ตัว รวมเป็น 9 ตัว คาดว่าจะทำให้เสร็จภายในเดือน ต.ค. หรือปลายปีนี้

อภิญญา ลิ่มอภิชาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอเตอร์พาร์ค ทุ่งสง ผู้ดำเนินธุรกิจสวนน้ำทุ่งสง วอเตอร์พาร์ค กล่าวว่า ภายในไม่เกิน 3 ปีจากนี้น่าจะได้เห็นสวนน้ำเกิดขึ้นต่อเนื่องทางภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากมีกลุ่มนักธุรกิจที่สนใจลงทุนด้านนี้ใน จ.ตรัง กระบี่ พัทลุง และหาดใหญ่ เริ่มสนใจลงทุนสวนน้ำแล้วหลังได้เห็นบริษัทลงทุนสวนน้ำทุ่งสง วอเตอร์พาร์ค ขณะที่บริษัท วอเตอร์พาร์ค ทุ่งสง มีบริษัทในเครือที่นำเข้าเครื่องเล่นสวนน้ำมาใช้ในทุ่งสง วอเตอร์พาร์ค ดังนั้นหากอนาคตมีนักลงทุนรายอื่นทางภาคใต้ตอนล่างสนใจลงทุน ก็มีโอกาสขยายธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องเล่นในสวนน้ำให้กับผู้ลงทุนเหล่านี้ได้

“ก่อนสร้างทุ่งสง วอเตอร์พาร์ค ได้ไปศึกษาสวนน้ำทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีอากาศร้อนกว่า พบว่าใน จ.อุดรธานี มีสวนน้ำมากกว่า 3 แห่งในจังหวัดเดียว ส่วนเส้นทางมุ่งสู่ภาคใต้ตอนล่างยังไม่มีสวนน้ำเลยจนกระทั่งมีสวนน้ำเปิดในสุราษฎร์ธานี ตามด้วยทุ่งสง วอเตอร์พาร์ค ดังนั้นการลงทุนสวนน้ำทางภาคใต้ตอนล่างหลังจากนี้น่าจะโตได้เกิน 100% ทุกจังหวัดทางภาคใต้อาจลงทุนสวนน้ำอย่างน้อย 1 แห่ง”

ขณะเดียวกัน มองว่า การมีสวนน้ำเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะจะทำให้คนรู้สึกว่ามีกิจกรรมให้ทำและท่องเที่ยวมากขึ้น

เฐาศิริษ ศิวาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีนิคอล กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจสวนน้ำสแปลช เวิลด์ ในโครงการซีนิคอล เวิลด์ กล่าวว่า ประเมินไว้หลายปีแล้วว่าจะมีการลงทุนสวนน้ำเกิดขึ้นมาก เป็นการลงทุนตามกระแสเมื่อเห็นใครทำก็อยากทำบ้าง ซึ่งธุรกิจสวนน้ำมีแนวโน้มเติบโตจริงแต่โตไม่ได้มาก บางจังหวัดมีความต้องการจำกัด มีสวนน้ำได้แห่งเดียว แต่หากมีหลายแห่ง ผู้ประกอบการก็ต้องแข่งขันกันสูงขึ้น เพื่อช่วงชิงผู้ที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ

“การทำธุรกิจสวนน้ำมีรายละเอียดมาก เกี่ยวกับความปลอดภัย อนาคตการรักษาธุรกิจสวนน้ำเพื่อให้อยู่รอดไม่ง่าย เพราะแข่งขันสูง ผู้ประกอบการต้องทำการบ้านอย่างหนัก หากทำให้คนมาสวนน้ำครั้งแรก เพื่อลองของใหม่ไม่ใช่เรื่องยากถ้าทำตลาดได้ดี แต่จะทำให้กลับมาใช้บริการซ้ำยาก ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะสร้างบุคลิกอะไรให้สวนน้ำ บำรุงรักษาดีแค่ไหน”

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นก็เป็นผลดีที่มีคนเปิดสวนน้ำมาก เพราะเป็นกระแสทำให้คนเริ่มรู้จักสวนน้ำมากขึ้น ในแง่การแข่งขันของสวนน้ำสแปลช เวิลด์ นั้น คู่แข่งหลักคงจะเป็นสวนน้ำทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่การแข่งขันคงไม่ใช่ระดับรุนแรงมาก เพราะสวนน้ำแต่ละแห่งอยู่ต่างพื้นที่กัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มาสวนน้ำสแปลช เวิลด์ หลักๆ น่าจะเป็นคนกรุงเทพฯ และคนในพื้นที่ใกล้เคียง ปีนี้ตั้งเป้าผู้ใช้บริการสวนน้ำ 3-4 แสนคน

เมื่อไทยเป็นประเทศเมืองร้อน จึงไม่แปลกที่จะเห็นการลงทุนสวนน้ำเพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนและการท่องเที่ยวเกิดขึ้นอีกต่อเนื่อง ส่วนจะอิ่มตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตอบรับของคนไทย และหากสร้างในทำเลที่เหมาะสมก็คงยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวเร็วๆ นี้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ไปลงทุนในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม โอกาสเปิดเร็วแต่ปิดเร็วก็มีเช่นกัน

ข่าวล่าสุด

ไฟดับซานฟรานซิสโก ทำ Robotaxi ของ Waymo จอดแน่นิ่งทั้งเมือง