แนะเชนโรงแรมไทยสู้ต่างชาติ
แนะเชนโรงแรมไทยควรแยกบริษัทบริหารออกจากบริษัทลงทุน ลดข้อกังวลขัดแย้งผลประโยชน์
แนะเชนโรงแรมไทยควรแยกบริษัทบริหารออกจากบริษัทลงทุน ลดข้อกังวลขัดแย้งผลประโยชน์
นายไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยและโรงแรม เปิดเผยว่า ในฐานะนักลงทุนที่เลือกเครือโรงแรม (เชน) มองว่า ทุกวันนี้เชนไทยยังวางทิศทางธุรกิจไม่ค่อยถูก ทุกแห่งยังไม่แยกบริษัทบริหารโรงแรมออกจากบริษัทที่ลงทุนโรงแรม
ทั้งนี้ จึงทำให้เจ้าของโรงแรมที่กำลังเลือกเชนบริหารกังวลเรื่องข้อขัดแย้งผลประโยชน์หากจะเลือกเชนไทย เพราะเจ้าของโรงแรมไม่แน่ใจว่าถ้าให้เชนไทยบริหารแล้ว เชนไทยมีโรงแรมที่ตัวเองลงทุนในทำเลใกล้กันจะมีความยุติธรรมในการเสนอขายโรงแรมกับลูกค้าแค่ไหน
อีกทั้งจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเชนนั้นจะไม่ขายโรงแรมที่ตัวเองลงทุนกับลูกค้าก่อนแล้วค่อยขายโรงแรมที่รับบริหารทีหลัง หากเชนไทยต้องการเติบโตต้องแสดงความเป็นมืออาชีพและไม่มีข้อขัดแย้งผลประโยชน์
“เชนนานาชาติไม่มีปัญหาข้อขัดแย้งผลประโยชน์ เพราะแยกบริษัทที่ลงทุนและบริหารออกจากกัน อีกทั้งจะส่งพนักงานขายแยกประจำโรงแรมแต่ละแห่งที่รับบริหาร ทำให้เจ้าของโรงแรมมั่นใจเรื่องความยุติธรรม”นายไพสิฐ กล่าว
นอกจากนี้ เชนไทยยังขาดการสร้างโรงแรมต้นแบบทุกแบรนด์ในเครือตั้งอยู่ในเมืองเดียวกัน เพื่อให้นักลงทุนที่สนใจเชนนั้นมาดูรูปแบบโรงแรมแต่ละแบรนด์
แหล่งข่าวจากวงการโรงแรม เปิดเผยว่า เชนไทยมักชูจุดแข็งว่าเจ้าของโรงแรมต่อสายตรงหรือพบผู้บริหารเชนได้ง่าย แต่จริงๆ ไม่ใช่จุดแข็งที่จำเป็น นอกจากนั้นนักลงทุนโรงแรมมักเข้าใจผิดว่า หากเลือกเชนไทยบริหารจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าเชนนานาชาติ ทั้งที่ความจริงแล้วเชนไทยบางรายคิดค่าธรรมเนียมสูงกว่า
สำหรับค่าธรรมเนียมแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.ค่าธรรมเนียมการบริหารโรงแรมพื้นฐาน เชนนานาชาติคิด 2-4% ของรายได้รวม เชนไทยรายหนึ่งคิด 3% 2.ค่าธรรมเนียมส่วนต่างกำไร เชนนานาชาติคิด 5-12% ของกำไร เชนไทยรายเดียวกันคิดที่ 10% และ 3.ค่าทำตลาด


