เอ็มบีเคปั้นเชนรร. สู้แบรนด์ต่างชาติ
เอ็มบีเคเล็งปั้นเชนโรงแรมสู้ต่างชาติ หลังเปิดตัวทินิดีบริหาร 3-4 ดาว แนวโน้มดี เตรียมเปิดเชนใหม่ลุย 5-6 ดาว
โพสต์ทูเดย์ - เอ็มบีเคเล็งปั้นเชนโรงแรมสู้ต่างชาติ หลังเปิดตัวทินิดีบริหาร 3-4 ดาว แนวโน้มดี เตรียมเปิดเชนใหม่ลุย 5-6 ดาว
น.ส.อาทร วนาสันตกุล รองกรรมการผู้จัดการสายการเงินและบริหาร บริษัท เอ็ม บี เค โฮเต็ล แอนด์ ทัวร์ริซึ่ม เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจโรงแรมนับจากนี้บริษัทมีแผนที่จะสร้างเชนโรงแรมของตัวเองขึ้นมา เพื่อบริหารโรงแรมในเครือ โดยเหตุผลที่ทำให้บริษัทมีแนวคิดจะทำเชนโรงแรมของตัวเองขึ้นมา เพราะต้องการสร้างเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจโรงแรมในเครือ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ส่วนใหญ่จะใช้เชนโรงแรมจากต่างประเทศบริหาร
ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัทมีเชนโรงแรมที่เริ่มนำมาบริหารโรงแรมในเครือแล้ว 2 แบรนด์ คือ แบรนด์ทินิดี บริหารโรงแรมระดับ 3-4 ดาว และแบรนด์ลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา บริหารโรงแรมในรูปแบบบูติก โฮเทล โดยในส่วนของเชนโรงแรมทินิดี ปัจจุบันได้นำเข้าบริหารโรงแรมในเครือแล้วจำนวน 2 โรงแรม คือ โรงแรมทินิดี ระนอง และโรงแรมทินิดี ภูเก็ต หลังจากเปิดตัวโรงแรมดังกล่าวเข้าทำตลาด ลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้บริษัทมีแผนจะขยายเชนโรงแรมทินิดีไปจังหวัดที่มีความสำคัญทางการค้าชายแดน และจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น จ.ขอนแก่น หนองคาย พัทยา และหัวหิน
สำหรับแบรนด์ลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา ขณะนี้บริหารโรงแรมในเครือ 1 แห่ง ที่เกาะลันตา จ.กระบี่ ส่วนเชนโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแบรนด์ที่มีความเหมาะสม คาดว่าในเร็วๆ นี้น่าจะได้ข้อสรุป จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีโรงแรมที่เข้าทำตลาดเจาะลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมาย
“ธุรกิจโรงแรมที่บริษัทดูแลอยู่ในขณะนี้มีทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท โรงแรมลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมทินิดี กอล์ฟ รีสอร์ท แอท ภูเก็ต และโรงแรมทินิดี แอท ระนอง ซึ่งตลอดปี 2558 ที่ผ่านมาโรงแรมทั้ง 5 แห่ง ที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 70%”
น.ส.อาทร กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวโรงแรมใหม่ พร้อมกับดำเนินการก่อสร้างจำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมในรูปแบบวิลล่า ใน จ.กระบี่ เป็นโรงแรมระดับ 5-6 ดาว จำนวน 50 ห้อง ก่อสร้างบนพื้นที่ 20-30 ไร่ ใกล้กับโรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท อีก 1 แห่ง จะอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ก่อสร้างในรูปแบบวิลล่า 2 ชั้น จำนวน 2 หลัง 8 ห้อง ซึ่งจะทำตลาดในรูปแบบไทม์แชริ่ง หรือการซื้อห้องพักล่วงหน้าในราคาที่กำหนดไว้ เช่น 5 ปี ราคา 1.55 แสนบาท และ 10 ปี ราคา 3.1 แสนบาท เป็นต้น โดยเป็นการแชร์วันพักร่วมกับลูกค้าคนอื่น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะปรับปรุงโรงแรมในเครือ เพื่อให้มีความทันสมัยและสวยงามมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย และประชาสัมพันธ์โรงแรมไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยสิ้นปีคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2558 ที่มีรายได้ 1,400 ล้านบาท


