ขายโจ๋ต้องของแปลก ‘แล้วแต่...กะเพราแท้’ ขอนแก่น
ช่วงเที่ยงวัน บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเข้าคิวรอรับประทานอาหารร้านตามสั่ง
โดย...จักรพันธ์ นาทันริ
ช่วงเที่ยงวัน บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเข้าคิวรอรับประทานอาหารร้านตามสั่ง
เพียงชื่อร้าน “แล้วแต่ กะเพราแท้” ก็ชวนให้ตะลึง และยิ่งไปกว่านั้นร้านนี้ไม่ขายอาหารอย่างอื่นนอกจากข้าวผัดกะเพราเพียงอย่างเดียว แต่ที่เด็ดสุดคือภาชนะใส่อาหาร หาใช่จาน ชามอย่างร้านทั่วๆ ไป แต่จะใส่มาในครก กระถางต้นไม้ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เครื่องปั่นน้ำผลไม้
เรียกได้ว่าความแปลกคือจุดเด่นของร้าน ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นและกลุ่มวัยรุ่น
จักรพล ศรีตระกูล เจ้าของร้านแล้วแต่ กะเพราแท้ บอกว่า เปิดมานานกว่า 2 ปีแล้ว จากการรวมกลุ่มของนักศึกษา มข. และกลุ่มนักดนตรีกลางคืน ซึ่งที่ผ่านมาได้ก่อตั้งวงดนตรีชื่อ “the clock” ทำแนวเพลงสไตล์อินดี้ ร่วมเล่นในเวทีคอนเสิร์ตต่างๆ รวมไปถึงการเล่นดนตรีตามร้านอาหารทั่วไปในเขต จ.ขอนแก่น และหลายจังหวัดของภาคอีสาน บางช่วงที่ไม่มีการรับงานดนตรีก็มาเปิดร้านดื่มกินเล็กๆ ด้านหลังมหาวิทยาลัย แต่ด้วยคนในวงและกลุ่มเพื่อนนั้นทำอาหารอร่อย โดยเฉพาะเมนูข้าวผัดกะเพรา จึงตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนทำร้านอาหารตามสั่งขึ้นมา โดยจำหน่ายเฉพาะเมนูอาหารจานด่วนข้าวผัดกะเพราเท่านั้น จนเป็นที่นิยมและชื่นชอบของลูกค้าอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษารุ่นน้องที่มาใช้บริการเป็นประจำทุกวัน
“คำว่ากะเพราแท้และนิยามของร้านที่เรายืนยันว่า เราคือโลกของผัดกะเพรา เกิดขึ้นจากพ่อครัวซึ่งเป็นเพื่อนกัน ที่ใช้แต่ใบกะเพราเป็นวัตถุดิบหลักผัดกับพริกและกระเทียม ทำให้มีรสชาติที่จัดจ้านและเผ็ดร้อน”
จักรพล บอกว่า แต่ที่มากไปกว่านั้นด้วยแนวคิดในการที่จะดึงดูดลูกค้า จึงนำครก หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เครื่องปั่นน้ำผลไม้ กระถางต้นไม้ หรือแม้แต่เขียงหรือปิ่นโต ฝาหม้อหรือแม้กระทั่งถ้วยขนาดใหญ่มาเป็นภาชนะใส่ข้าวผัดกะเพราให้กับลูกค้า และเมื่อมีการถ่ายภาพการเสิร์ฟอาหารด้วยเมนูจานแปลกที่ลูกค้าไม่ทราบว่าจะได้รับจานอะไรลงในเฟซบุ๊กหรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้กระแสตอบรับดีเกินคาด และมีลูกค้าทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดมาใช้บริการและอุดหนุนข้าวผัดกะเพราของเราจนแน่นร้านทุกวันเลยทีเดียว
ความแปลกอาจเป็นจุดเด่นที่ดึงดูด และการตรึงลูกค้าอย่างยั่งยืน กลยุทธ์ด้านราคาเป็นเครื่องมือสำคัญ จักรพล บอกว่า นโยบายของร้านคือไม่เอาเปรียบลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่มีรายได้น้อย จึงยืนหยัดจำหน่ายในราคาจานละ 39 บาท หากเพิ่มไข่ก็จะแยกราคาที่ต่างกัน เช่น ไข่ดาวและไข่เจียว 7 บาท ไข่ออนเซน 10 บาท และไข่ข้น 20 บาท นอกจากนี้ยังคงมีเมนูพิเศษ คือ
มาม่ากะเพรา สปาเกตตีกะเพรา กะเพราโดนัท และกะเพราคลุก ที่สำคัญคือร้านจะยังคงไว้ซึ่งความสด สะอาด และราคาไม่แพง


