ผู้ประกอบการขนส่งทยอยนำรถโดยสาร-รถบรรทุกติดGPS
กรมการขนส่งทางบก เผย ผู้ประกอบการขนส่งเริ่มทยอยนำรถโดยสาร รถบรรทุกที่จดทะเบียนไว้ก่อน 25 ม.ค. 59 เข้ารับการตรวจสอบการติดตั้ง GPS และการเชื่อมโยงข้อมูลแล้ว จำนวนกว่า 27,000 คัน
กรมการขนส่งทางบก เผย ผู้ประกอบการขนส่งเริ่มทยอยนำรถโดยสาร รถบรรทุกที่จดทะเบียนไว้ก่อน 25 ม.ค. 59 เข้ารับการตรวจสอบการติดตั้ง GPS และการเชื่อมโยงข้อมูลแล้ว จำนวนกว่า 27,000 คัน
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่าหลังจากกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกที่จดทะเบียนใหม่หลังวันที่ 25 มกราคม 2559 ต้องดำเนินการติดตั้ง GPS ทุกคัน และกำหนดให้รถที่ได้มีการติดตั้ง GPS ไว้ก่อนแล้วต้องเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ผู้ประกอบการและเจ้าของรถหลายรายเริ่มทยอยนำรถเข้าตรวจสภาพและตรวจสอบการติดตั้งและเชื่อมโยงข้อมูล เป็นรถจดทะเบียนใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 202 คัน ประกอบด้วย รถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง จำนวน 14 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง จำนวน 58 คัน และรถบรรทุกส่วนบุคคลจำนวน 130 คัน ในส่วนของการตรวจสภาพและตรวจสอบการเชื่อมโยงข้อมูลของรถที่จดทะเบียนไว้ก่อน วันที่ 25 มกราคม 2559 ซึ่งมีการติดตั้ง GPS ไว้ก่อนแล้วนั้น พบว่ารถมีที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS เรียบร้อยแล้วจำนวนทั้งสิ้น 27,108 คัน เป็นรถโดยสาร จำนวน 2,140 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง จำนวน 14,289 คันและรถบรรทุกส่วนบุคคล อีกจำนวน 10,679 คัน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ รถโดยสารสาธารณะ รถลากจูง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ (10 ล้อขึ้นไป) ที่ติดตั้ง GPS ไว้แล้ว ต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถของกรมการขนส่งทางบกให้แล้วเสร็จภายในปี 2559
นายสนิท กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถโดยสารสาธารณะที่ยังไม่ได้ติดตั้ง GPS ในส่วนของรถโดยสารสองชั้นกำหนดติดตั้งภายในรอบปีภาษี 2559 ส่วนรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่นๆ จะต้องดำเนินการติดตั้งให้ครบถ้วนภายในรอบปีภาษี 2560 สำหรับรถลากจูงกำหนดติดตั้งภายในรอบปีภาษี 2560 รถบรรทุกสาธารณะภายในรอบปีภาษี 2561 และรถบรรทุกส่วนบุคคลให้ระยะเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรอบปีภาษี 2562 ทั้งนี้ การนำรถเข้ารับการตรวจสอบการติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูล การเดินทางของรถและตรวจสอบว่าเป็นรุ่นที่ได้รับการรับรอง ต้องมีหนังสือรับรองการติดตั้งและเครื่องหมายรับรองที่ออกโดย ผู้ให้บริการระบบติดตามรถที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง ซึ่งเครื่องบันทึกข้อมูลดังกล่าว ต้องสามารถแสดงตำแหน่งในพิกัด แสดงความเร็วของรถ แสดงจำนวนชั่วโมงการขับขี่ มีอุปกรณ์ระบุตัวผู้ขับรถ มีระบบเตือนเมื่อใช้รถโดยไม่เปิดเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ ระบบเตือนการไม่แสดงตัวผู้ขับรถหรือใช้ใบอนุญาตขับรถผิดประเภท หากพบมีการรายงานข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่รายงานข้อมูลตามเงื่อนไขที่กำหนด กรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาเพิกถอนการให้การรับรองเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ โดยผู้ให้บริการระบบติดตามรถจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถสามารถตรวจสอบเครื่องบันทึกข้อมูลที่ได้รับการรับรองได้ที่เว็บไซต์ http://apps.dlt.go.th/esb/approve.html หรือสอบถามเพิ่มเติมที่สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก โทรศัพท์ 02-271-8605 หรือทางอีเมล์ [email protected]
ภาพประกอบข่าว


