posttoday

ทันสถานการณ์

18 มกราคม 2559

อนุมัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซียผลิตก๊าซ

อนุมัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซียผลิตก๊าซ

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็วๆ นี้ได้อนุมัติร่างข้อตกลงว่าด้วยการร่วมผลิตระหว่างองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJA) และบริษัท Petroliam NasionalBerhad (ปิโตรนาส) สำหรับการร่วมกันผลิตปิโตรเลียมแหล่งบุหลันใต้ ในแปลง A-18 ของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) กับแหล่งบุหงาบากาวาลีในแปลงปิโตรนาสของประเทศมาเลเซีย และให้องค์กรร่วมฯ สามารถลงนามร่วมผลิตกับบริษัท ปิโตรนาส ได้หลังได้รับการพิจารณาจากอัยการสูงสุดแล้ว

ก่อนหน้านี้ องค์กรร่วมฯ ได้เห็นชอบร่างข้อตกลงว่าด้วยการร่วมกันผลิตปิโตรเลียมไปเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 และได้เริ่มการผลิตก๊าซในพื้นที่แหล่งบุหลันใต้-บุหงาบากาวาลีมาตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 2558 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อสนับสนุนการผลิตของแปลง A-18 และเพื่อส่งมอบก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศมาเลเซียและประเทศไทยในอัตรา 950 ล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งเป็นผลดีต่อประเทศมาเลเซียและประเทศไทยในด้านความมั่นคงทางพลังงานและการสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่ต้องเสนอ ครม.อนุมัติร่างข้อตกลงว่าด้วยการร่วมกันผลิตปิโตรเลียมแหล่งบุหลันใต้-บุหงาบากาวาลี และให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังด้วย

กระทรวงพลังงาน รายงานว่า เมื่อในปี 2540 องค์กรร่วมฯ ได้อนุมัติให้ผู้ได้รับสัญญาถือครองพื้นที่เพื่อพัฒนาก๊าซธรรมชาติแหล่งบุหลันครอบคลุมพื้นที่ 334.80 ตร.กม. และต่อมามีการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลเพิ่มเติมในพื้นที่ดังกล่าว พบว่าโครงสร้างกักเก็บปิโตรเลียมมีความต่อเนื่องคร่อมเส้นกรอบพื้นที่พัฒนาร่วมเข้าไปในพื้นที่แปลงปิโตรนาสของประเทศมาเลเซีย องค์กรร่วมฯ และบริษัท ปิโตรนาส จึงมีการหารือและเห็นชอบให้ทำการผลิตร่วมกัน และจัดทำร่างข้อตกลงว่าด้วยการร่วมกันผลิตระหว่างองค์กรร่วมฯ กับบริษัทปิโตรนาสขึ้นมาเพื่อเสนอให้รัฐบาลไทยเห็นชอบ

ดีเดย์เปิดยื่นซื้อขายไฟฟ้าชีวภาพ-ชีวมวล

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์) ในแบบ Feed-in Tariff (FIT) และหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าด้วยวิธีการคัดเลือกโดยการแข่งขันทางด้านราคา (Competitive Bidding) ระยะที่ 1 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา โดยมีเป้าหมายการรับซื้อรวมไม่เกิน 46 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2561 ซึ่งได้เลื่อนจากเดิมที่เคยกำหนดไว้ภายในปี 2560 เนื่องจากต้องใช้เวลาในการตรวจสอบศักยภาพของพื้นที่สายส่งไฟฟ้าที่จะมารองรับ โดยแบ่งการรับซื้อไฟฟ้าเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 กกพ. ได้ออกประกาศการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) พร้อมหลักเกณฑ์ด้วยวิธีการคัดเลือกโดยการแข่งขันทางด้านราคาไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2559 ที่ผ่านมา ในปริมาณกำลังผลิตติดตั้งรวมไม่เกิน 46 เมกะวัตต์ และในระยะที่ 2 กกพ. จะเปิดรับซื้อไฟฟ้าในพื้นที่ที่เหลือภายหลังจากการรับซื้อไฟฟ้าโครงการโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตรแล้วเสร็จ

ข่าวล่าสุด

ประเสริฐยันจบด้วยดี “ไชยา” ลาเพื่อไทยเหตุจำเป็นการเมือง