Smart Entrepreneur

โดย...เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร

เนื่องจากคุณสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ทีเด็ด SME ติดภารกิจ จึงขอนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจทั้งจากนโยบายภาครัฐ แนวโน้มของธุรกิจ ที่จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วไป

นโยบายเศรษฐกิจไทยยุคปัจจุบัน ที่ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เรียกว่าเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 หรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม เป็นการเปลี่ยนรากฐานเศรษฐกิจจากการขับเคลื่อนด้วยภาคอุตสาหกรรมมาสู่การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

แผนปฏิบัติการที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการผลักดัน 6 ซูเปอร์คลัสเตอร์ใหม่ ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน, เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์โทรคมนาคม, ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ดิจิทัล, ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป และการให้บริการทางการแพทย์ โดยให้สิทธิพิเศษในการลงทุน ถือเป็นการคิกออฟการลงทุนใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ในแง่อุตสาหกรรมบริการ ก็เป็นอีกหนึ่งความหวังของไทยในการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจใหม่ ทั้งอุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพและความงาม, บริการด้านการศึกษา, การขนส่งและโลจิสติกส์, ธุรกิจภาพยนตร์และการถ่ายทำภาพยนตร์ คลัสเตอร์เหล่านี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการศึกษาและให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เพื่อดึงให้เอกชนเกิดการลงทุน

สำหรับมาตรการเหล่านี้แม้จะไม่เห็นผลภายในระยะสั้น แต่ในระยะยาว 3-5 ปี เชื่อว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนต่อภาคธุรกิจในประเทศไทย การหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจบริการ ซึ่งเป็นเหมือนหัวใจหลักของคนไทย จะเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของไทยในเวทีโลก ที่เชื่อว่าเราแข่งขันได้และไม่เป็นรองใคร เพียงแต่ต้องปรับตัวให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันให้ได้

และแน่นอนว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมบริการเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นนักรบทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะจะเป็นเครื่องยนต์สำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งจากภายใน ในยามที่เราไม่สามารถพึ่งพาเศรษฐกิจโลกได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ดี นักธุรกิจเอสเอ็มอีเหล่านี้อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ในการทำธุรกิจ ดร.สุวิทย์ แนะนำว่า ผู้ประกอบการต้องเลิกคิดว่าจะผลิตสินค้าอะไร ขายให้ใคร ขายอย่างไร แต่ต้องคิดสร้างธุรกิจ หรือ Business Model ที่จะก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ และสร้างความแตกต่างจากรูปแบบธุรกิจเดิมๆ ขณะเดียวกันไปสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมของยุคดิจิทัล

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดสำหรับโมเดลธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้น อาทิ แกร็บแท็กซี่ ที่ใช้เวลาเพียง 2 ปี ก้าวสู่ธุรกิจระดับพันล้านบาท ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีสร้างธุรกิจใหม่ให้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น เอสเอ็มอีในยุคต่อไปจะต้องเป็น Smart Entrepreneur ไม่ใช่ SME ที่หมายถึง Small Medium Enterprise

ส่วนตัวเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ในสังคมไทยมีความเป็นEntrepreneur สูง หากภาครัฐและธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ รวมทั้งสถาบันการเงิน เชื่อในสิ่งเดียวกันและสนับสนุนกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเต็มที่ เชื่อว่าไม่นานเศรษฐกิจไทยจะเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม