posttoday

โรงแรมฉายเดี่ยวตื่นตัว อัพเกรดเทคโนโลยีสู้เชน

29 ตุลาคม 2558

ยุคเทคโนโลยีพัฒนารวดเร็ว สร้างโอกาสให้หลายธุรกิจ หากรู้จักประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจตัวเอง ยิ่งเป็นผู้นำในธุรกิจได้ยิ่งได้เปรียบ และเทคโนโลยีที่พัฒนาเร็วนี่เอง ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ไม่ใช่เครือโรงแรมระดับนานาชาติ (เชน) สามารถต่อกรกับเชนใหญ่ได้

ยุคเทคโนโลยีพัฒนารวดเร็ว สร้างโอกาสให้หลายธุรกิจ หากรู้จักประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจตัวเอง ยิ่งเป็นผู้นำในธุรกิจได้ยิ่งได้เปรียบ และเทคโนโลยีที่พัฒนาเร็วนี่เอง ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ไม่ใช่เครือโรงแรมระดับนานาชาติ (เชน) สามารถต่อกรกับเชนใหญ่ได้

บัณฑิต โบว์เสรีวงศ์ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร โรงแรมวินเซอร์ สวีทส์ สุขุมวิท 20 เปิดเผยว่า ได้อัพเกรดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ขององค์กรเพิ่มเติม จากเดิมที่มีระบบเทคโนโลยีที่ใช้ในด้านปฏิบัติการ (โอเปอเรติ้ง ซิสเต็ม) อยู่แล้ว ล่าสุดก็ได้ลงนามในสัญญาร่วมกับบริษัท ซีเอสคอนเน็ก เป็นสัญญาระยะ 2 ปี ในการนำระบบไอทีที่ช่วยด้านการทำตลาดของโรงแรมมาใช้

ก่อนหน้าที่จะเลือกระบบนี้ ได้พิจารณาผู้ให้บริการหลายบริษัท และสุดท้ายก็เลือกซีเอสคอนเน็กเนื่องจากมีสัมพันธ์กับทางโรงแรมมายาวนาน โดยทางผู้บริหารของซีเอสคอนเน็กมีบริษัทตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวซึ่งเคยทำงานกับโรงแรมใกล้ชิดมาก่อน จึงทำงานกันได้ด้วยดี ประกอบกับระบบที่นำเสนอมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ

ระบบที่วินเซอร์ฯ เลือกใช้คือระบบที่ช่วยให้การทำสัญญากับคู่ค้าง่ายขึ้น จากเดิมฝ่ายขายอาจต้องคอยทำสัญญาทีละฉบับกับคู่ค้าแต่ละรายแล้วนำข้อมูลมาใส่ระบบ เมื่อใช้ระบบนี้แล้วก็จะสามารถทำสัญญากับคู่ค้าได้ 200-300 รายพร้อมกันโดยที่ข้อมูลอยู่ในระบบเชื่อมโยงกันอยู่แล้ว และสามารถบันทึกหลักฐานใบสัญญาฉบับอิเล็กทรอนิกส์ให้คู่ค้าได้ทันทีในระบบ เพียงแต่คู่ค้าที่จะทำสัญญากับโรงแรมจะต้องมีการลงทะเบียนเข้ามาใช้ระบบเพื่อทำสัญญาต่างๆ

การใช้ระบบนี้ทำให้ฝ่ายขายใช้เวลาเรื่องเอกสารน้อยลง ไม่ต้องเสียเวลาตั้งระดับราคา จำนวนห้องพักที่จะให้จอง ระยะเวลาการจองหลายครั้ง มีเวลาออกไปพบปะลูกค้ามากขึ้น

นอกจากนี้ยังใช้ระบบบริหารการจองห้องพักแบบใหม่ ซึ่งสำรวจราคาห้องพักที่คู่แข่งตั้งไว้บนเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ (โอทีเอ) ได้ผ่านระบบ และระบบจะคำนวณให้ว่าช่วงเวลานั้นๆ ควรขายห้องพักราคาเท่าไหร่ ส่วนจะเลือกวางราคาตามที่ระบบแนะนำหรือไม่ขึ้นอยู่กับโรงแรมเอง หากช่วงเวลานั้นโรงแรมมียอดความต้องการในมือสูงอยู่แล้วอาจตั้งสูงกว่าราคาที่ระบบแนะนำก็ได้ ถือเป็นข้อดีกว่าวิธีการเดิมที่โรงแรมต้องไปค้นหาราคาห้องพักคู่แข่งเองทีละโรงแรมผ่านโอทีเอ

“ในอดีตหัวใจสำคัญของการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจโรงแรม อยู่ที่ด้านระบบปฏิบัติการอย่างเดียว ด้านระบบการตลาดหลายโรงแรมยังไม่ได้เน้น เพราะเพิ่งมีเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาสนับสนุนด้านการตลาด การที่วินเซอร์ฯ ใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการตลาดจึงถือเป็นการยกระดับการใช้เทคโนโลยีอีกขั้นที่คาดว่าจะทำให้โรงแรมสามารถเพิ่มรายได้ไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่จะมีระบบ โดยเริ่มใช้งานระบบช่วยการทำสัญญากับคู่ค้าไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ระบบบริหารการจองห้องพักจะเริ่มใช้ ม.ค. 2559” บัณฑิต กล่าว

ทั้งนี้ การยกระดับเทคโนโลยีสนับสนุนการตลาด จะมีส่วนสำคัญทำให้โรงแรมเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์ของโรงแรมเองได้ดีขึ้น ลดสัดส่วนจากโอทีเอลง ที่ผ่านมาสัดส่วนลูกค้ามาจากตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยว 20% โอทีเอ 25% เว็บไซต์โรงแรม 10% ลูกค้าองค์กร 20% กลุ่มประชุม สัมมนา นิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (ไมซ์) 15% และที่เหลือเป็นลูกค้าอื่นๆ

บัณฑิต กล่าวว่า แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาตอบสนองธุรกิจโรงแรมจำนวนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าโรงแรมจะพิจารณาใช้ทุกเทคโนโลยีในทันที ต้องคำนึงถึงผู้ใช้บริการด้วยว่าพร้อมรับเทคโนโลยีนั้นๆ หรือไม่ เช่น การเช็กอินผ่านสมาร์ทโฟน และการใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจเข้าห้องพัก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่มาก ผู้ใช้บริการส่วนหนึ่งยังมีความกังวลอยู่ว่าการใช้งานเหล่านี้จะปลอดภัยเพียงใด และสะดวกแค่ไหน ดังนั้นก็อาจยังไม่ต้องเลือกใช้เวลานี้

ขณะที่แนวโน้มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ กลุ่มที่มาแรงสุดคือ เอเชียน มิลเลนเนียลส์ ทราเวลเลอร์ หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่เอเชียที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวเอง กลุ่มนี้จองออนไลน์ วางแผนเอง ไม่ยึดติดกับแบรนด์ เป็นผลดีกับวินเซอร์ฯ ซึ่งเป็นโรงแรมเดี่ยวๆ ไม่ใช่แฟรนไชส์ หากสามารถสร้างความประทับใจให้กลุ่มนี้ได้ก็จะเกิดการบอกต่อและดึงกลุ่มใหม่ๆ ตามมาใช้บริการได้อีก ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีสนับสนุนการตลาดก็จะมีส่วนสำคัญช่วยโรงแรมได้ดี

ศิวจักร อุสมาน ผู้อำนวยการ บริษัท ซีเอสคอนเน็ก ผู้ให้บริการระบบไอทีธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า เพิ่งจับมือกับพันธมิตรในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย จัดตั้งบริษัทเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนำระบบไอทีธุรกิจโรงแรมที่ทางพันธมิตรในบังกาลอร์พัฒนามาขยายตลาดในไทย เน้นเจาะกลุ่มโรงแรมรายเดี่ยวๆ ที่ไม่ได้ใช้เชนบริหาร ตั้งเป้าหมายภายใน 6 เดือนนับจากเปิดบริษัท มีโรงแรมใช้บริการระบบ 50 แห่ง จากนั้นเพิ่มเป็น 100 แห่งใน 1 ปี และเป็น 200 แห่งใน 2 ปี โดยปัจจุบันมีโรงแรมใช้บริการแล้วกว่า 20 แห่ง รวมถึงวินเซอร์ฯ ด้วย

ระบบที่ให้บริการมี 5 ระบบ ได้แก่ 1.แชนแนล แมเนจเมนต์ เป็นระบบสำหรับการทำธุรกิจบนออนไลน์ ช่วยในการปรับเปลี่ยนราคาห้องพักที่นำเสนอในโอทีเอต่างๆ มีโอทีเอที่ระบบเชื่อมโยงกว่า 70 รายทั่วโลก ในจำนวนนี้มีโอทีเอ 10 รายที่ครอบคลุมยอดจองออนไลน์ 95% ของตลาดรวม 2.อี-ไพรเวท คอนแท็กต์ เป็นระบบสนับสนุนการทำธุรกิจออฟไลน์ ใช้พิมพ์ใบสัญญาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้คู่ค้าแต่ละรายได้ 3.บุ๊กกิ้ง เอนจิ้น ระบบสนับสนุนทำธุรกิจบนออนไลน์ เป็นการทำระบบจองห้องพักบนเว็บไซต์โรงแรมที่เชื่อมโยงกับแชนแนล แมเนจเมนต์ได้

4.เรเวนิว แมเนจเมนต์ ระบบสนับสนุนธุรกิจบนออนไลน์ ให้โรงแรมดูราคาห้องพักของคู่แข่งที่นำเสนอบนออนไลน์พร้อมคำนวณราคาที่ควรนำเสนอ โดยกำหนดจำนวนโรงแรมคู่แข่งที่เฝ้าติดตามได้ 5.คอนแท็กต์ รีเซอร์เวชั่น ซิสเต็ม เป็นระบบสนับสนุนธุรกิจบนออฟไลน์ ช่วยในการทำสัญญาจองห้องพักกับคู่ค้าหลายๆ รายได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ระบบที่ 1-3 เปิดให้บริการได้แล้ว ส่วนระบบที่ 4-5 จะเริ่มให้บริการได้ต้นปีหน้า

ศิวจักร มองว่า การนำเสนอ 5 ระบบนี้ ถือว่ามีระบบไอทีด้านการตลาดครบวงจรที่สุด จากที่ผ่านมาคู่แข่งจะมีระบบใดระบบหนึ่งบริการเท่านั้น ระบบที่โรงแรมน่าจะใช้มากที่สุดคือ แชนแนล แมเนจเมนต์

เมื่อเป็นเช่นนี้ หากโรงแรมรายเดี่ยวต้องการแข่งขันกับเชนต่างชาติ การนำเทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ จึงนับเป็นอีกช่องทางที่จะสู้ได้ฉลุย

ข่าวล่าสุด

"ธรรมนัส” เผย 25 ธ.ค.นี้ กล้าธรรมเปิดตัวสส.ทั้งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์