กองทุนฟื้นฟูฯโล่งหนี้ต่ำกว่าคาด
กองทุนฟื้นฟูฯ จ่ายหนี้จนลดต้นต่ำกว่า 1 ล้านล้านแล้ว เล็งขายทรัพย์เร่งลดหนี้ต่อเนื่อง
กองทุนฟื้นฟูฯ จ่ายหนี้จนลดต้นต่ำกว่า 1 ล้านล้านแล้ว เล็งขายทรัพย์เร่งลดหนี้ต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน รายงานการบริหารหนี้ตาม พ.ร.ก.การปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ พ.ศ. 2555 หนี้ที่รัฐบาลชดเชยความเสียหายให้กับกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยยอดล่าสุด ณ สิ้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มียอดหนี้คงค้างทั้งสิ้น 998,790.80 ล้านบาท ถือว่ายอดหนี้ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาทเป็นเดือนแรก นับตั้งแต่กองทุนฟื้นฟูฯ เริ่มชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยมาเป็นเวลา 3 ปี 7 เดือน
ทั้งนี้ ยอดหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ ดังกล่าว แบ่งเป็นหนี้ที่คงเหลือของการออกพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลเพื่อขายให้กับประชาชน (FIDF1) รวม 403,112.97 ล้านบาท และเป็นหนี้ของการออกพันธบัตรรัฐบาลที่ออกขายโดยตรงให้กับสถาบันการเงิน (FIDF3) จำนวน 595,677.83 ล้านบาท
สำหรับการลดลงของหนี้สินดังกล่าว ถือว่าเร็วกว่าแผนที่กองทุนฟื้นฟูฯ กำหนดไว้กับรัฐบาลใน ช่วงแรก และในช่วงต่อไปกองทุนฟื้นฟูฯ ยังมีแนวคิดที่จะขายสิน ทรัพย์ หุ้นที่ถืออยู่ในธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งการนำสินทรัพย์ที่ดีเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะมีการดำเนินการในระยะเวลา และผลตอบแทนที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม หนี้ที่มีอยู่ 1.4 ล้านล้านบาท กองทุนฟื้นฟูฯ ได้เริ่มชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน ก.พ. 2555-ก.ย. 2558 รวม 275,331.03 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้นทั้งสิ้น 139,515.08 ล้านบาท และเป็นการชำระดอกเบี้ย ทั้งสิ้น 135,835.95 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2558 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้โอนเงินของกองทุนฟื้นฟูฯ เข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนฟื้นฟูฯ ในปีงบประมาณ 2559 จำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2558 ครม.ได้มีมติให้กองทุนฟื้นฟูฯ โอนเงินเข้าบัญชีสะสมฯ ชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF1 และ FIDF3 จำนวน 3 ครั้ง เป็นเงิน ทั้งสิ้น 65,029 ล้านบาท
นอกจากนี้ คาดว่า ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2559 กองทุนฟื้นฟูฯ จะมีสภาพคล่องคงเหลือ 15,598 ล้านบาท ไม่นับรวมเงินปันผลที่จะได้รับจากธนาคารกรุงไทย ทำให้มีสภาพ คล่องที่จะสามารถชำระเงินต้นในปีงบประมาณ 2559 ได้ 1.4 หมื่นล้านบาท


