นักดื่มเวียดนาม

โดย...สมหทัย โมสิกะ

เมาแล้วขับ ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นใน “ไทย” เพียงแห่งเดียว แต่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของ “เวียดนาม” ที่พบว่านี่คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุบนท้องถนน แถมบรรดาผู้เชี่ยวชาญยังออกโรงเตือนด้วยว่า สถานการณ์จะย่ำแย่ลงอีก เพราะปัญหาที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น

สื่อท้องถิ่นของเวียดนามอย่าง thanhniennews อ้างข้อมูลจากคณะกรรมการความปลอดภัยจราจรแห่งชาติ ว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค.ปีนี้ เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนรวม 14,622 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5,821 คน และผู้บาดเจ็บ 13,234 คน หรือคิดคร่าวๆ ในแต่ละวันมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุประมาณ 24 คน หรือตกชั่วโมงละ 1 คน

ขณะที่แต่ละปีเฉลี่ยแล้วมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 1.2 หมื่นคน โดยราว 4,800 คน เกิดจากอุบัติเหตุที่มีสาเหตุจากเมาแล้วขับ

ตำรวจจราจรนายหนึ่งในโฮจิมินห์ ซิตี้ ให้ข้อมูลว่า ในจำนวนประชากรของเมืองทุกๆ 3 คน จะมี 1 คนที่ดื่มเหล้าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และ 64% เป็นผู้ชาย

“ในเวียดนามคนจะดื่มเหล้าตอนเช้าและกลางวัน อุบัติเหตุจากเมาแล้วขับจำนวนมากเกิดระหว่างคนขับรถไปทำงานหรือกลับเข้าออฟฟิศหลังพักกลางวัน” ร.ต.ท.โด๋กวางหุ่ง จราจรโฮจิมินห์ ซิตี้ อธิบาย

ทั้งนี้ ในเวียดนาม กฎหมายห้ามคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ขับรถยนต์เป็นเด็ดขาด ส่วนคนขับขี่มอเตอร์ไซค์ห้ามมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัม/เลือด 100 มิลลิลิตร ซึ่งเท่ากับกฎหมายไทย และห้ามมีแอลกอฮอล์ในลมหายใจเกิน 0.25 มิลลิกรัม/ลมหายใจ 1 ลิตร

นอกจากนักดื่มวัยทำงานแล้ว ตอนนี้วัยรุ่นไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงก็หันมาดื่มมากขึ้น ผลสำรวจของสถาบันนโยบายและยุทธศาสตร์สุขภาพ พบว่า ชาวเวียดนามประมาณ 25% ดื่มแอลกอฮอล์ และมีนักดื่มรุ่นใหม่มากขึ้น โดย 34% ของคนวัย 14-17 ปี และ 57% ของคนวัย 18-21 ปี ยอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์ และคนประมาณ 40% ถึงขั้นติดเลยทีเดียว

อาจารย์ด้านจิตวิทยาจาก HCMC Pedagogy University ชี้ว่า คนเวียดนามจำนวนมากมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการดื่ม ซึ่งคนรุ่นใหม่จำนวนมากคิดว่าเป็นการแสดงว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว บางส่วนคิดว่าเป็นการโชว์ความแมน และทำให้รู้สึกมั่นใจเมื่อเข้าสังคมมากขึ้น

ที่น่ากลัวคือ คนจำนวนมากคิดว่า การดื่มเป็นนิสัย ไม่ได้ติดงอมแงม หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ บางส่วนยังคิดด้วยว่า ดื่มแล้วดีต่อจิตใจทำให้มองโลกในมุมรื่นรมย์

ทั้งนี้ การสำรวจนักเรียนและคนทำงานรุ่นใหม่ 670 คนครั้งนี้พบว่า เกือบครึ่งหนึ่งดื่มสัปดาห์ละครั้ง 25% ดื่มมากกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์ และมากกว่า 55% บอกว่าแต่ละครั้งดื่มเบียร์มากกว่า 3 ลิตร