หุ้นไทยโหด155กองสอบตก
ตลาดหุ้นไทยครึ่งปีแรกยากจริง ฉุดผลตอบแทนกองหุ้นไทย 2 ใน 3 แพ้ดัชนี กองหุ้น ตปท.ฉลุย
ตลาดหุ้นไทยครึ่งปีแรกยากจริง ฉุดผลตอบแทนกองหุ้นไทย 2 ใน 3 แพ้ดัชนี กองหุ้น ตปท.ฉลุย
ข้อมูลผลดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2558 ของกองทุนหุ้นไทย โดยบริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) พบว่ามีกองทุนหุ้นไทยมากถึง 155 กองทุน หรือ 2 ใน 3 จากกองทุนไทยทั้งหมด 225 กองทุน ที่มีผลตอบแทนต่ำกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมเงินปันผล (SET TR) ที่ให้ผลตอบแทน 2.34%
เมื่อแบ่งประเภทกองทุนตามนโยบายการลงทุน จะพบว่ากองทุนหุ้นขนาดใหญ่จำนวน 73 กองทุน มีเพียง 12 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าดัชนี
กองทุนที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในกลุ่มกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ กองทุนดัชนีธุรกิจพลังงานและธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า ผลตอบแทน 12.08% และกองทุนที่ให้ผลตอบแทนต่ำสุด ได้แก่ กองทุนไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX บลจ.ไทยพาณิชย์ ติดลบ 15.38%
กองทุนหุ้นทั่วไปที่มีทั้งหมด 144 กองทุน มีอยู่ 53 กองทุนที่มีผลตอบแทนมากกว่าดัชนี และอีก 91 กองทุนให้ผลตอบแทนน้อยกว่าดัชนี โดยกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ กองทุนไทยทวีทุน ของ บลจ.กรุงไทย ให้ผลตอบแทน 20.85% และกองทุนที่ผลดำเนินงานต่ำสุด คือ กองทุนไทยพาณิชย์มั่นคง 5 บลจ.ไทยพาณิชย์ ติดลบ 4.12%
กองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีอยู่ 8 กองทุน แต่มีสัดส่วนของกองทุนที่มีผลดำเนินงานชนะดัชนีอยู่ 5 กองทุน และแพ้ดัชนีเพียง 3 กองทุนเท่านั้น โดยกองทุนที่ผลดำเนินงานดีที่สุดเป็นกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ ได้แก่ ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ ผลตอบแทน 15.55% และกองทุนที่ผลตอบแทนต่ำสุด คือ กองทุนโซลาริสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.โซลาริส ติดลบ 1.78%
ทั้งนี้ เมื่อจัดลำดับผลตอบแทนของกองทุนหุ้น 225 กองทุน จะพบว่ามีกองทุนหุ้นของ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 3 กองทุน โดยเป็นกองทุนในกลุ่มแอล เอช โกรท ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกันที่ 11.34-11.35% นอกจากนี้ กองทุนแอล เอช เฟล็กซิเบิล ยังให้ผลตอบแทนมากที่สุดในกลุ่มกองทุนผสม อยู่ที่ 11.39%
ขณะที่กองทุนหุ้นไทยส่วนใหญ่ทำผลงานในครึ่งแรกของปี 2558 ได้ไม่ดีนัก แต่กองทุนหุ้นต่างประเทศให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะกองทุนหุ้นจีน หุ้นญี่ปุ่น หุ้นยุโรป และหุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์
กองทุนหุ้นจีนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ได้แก่ กองทุนทหารไทย China Opportunity ของ บลจ.ทหารไทย ผลตอบแทน 24.54% อันดับสอง คือ กองทุนเค ไชน่า หุ้นทุน บลจ.กสิกรไทย ได้ 22.46%
กองทุนหุ้นเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น ให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน โดย 2 อันดับแรกเป็นของ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีนเช่นกัน ได้แก่ กองทุนยูโอบี สมาร์ท เกรธเธอร์ ไชน่า ได้ 20.74% และกองทุนเกรธเธอร์ ไชน่า ได้ 18.85%
กองทุนหุ้นญี่ปุ่นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ได้แก่ กองทุนยูโอบี สมาร์ท เจแปน สมอล แอนด์ มิด แคป ฟันด์ บลจ.ยูโอบี ได้ 20.51% และกองทุนเจแปน สมอล แอนด์ มิด แคป ฟันด์ บลจ.ยูโอบี ให้ผลตอบแทน 19.13%
กองทุนหุ้นยุโรปที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ได้แก่ กองทุนเคแทม ยูโรเปียน อิควิตี้ ฟันด์ บลจ.กรุงไทย อยู่ที่ 18.34%
ขณะที่กลุ่มกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นทั่วโลกทั้งหมด 45 กองทุนนั้น มีกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ หรือเฮลท์แคร์ ถึง 7 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก โดยกองทุนบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ บลจ.บัวหลวง ผลดำเนินงานดีที่สุดอยู่ที่ 15.11%


