โรงแรมใต้ฮึด รุกโลว์ซีซั่น

ผ่านฤดูกาลท่องเที่ยวมาแล้ว กำลังเข้าสู่ช่วงฝนตก บ้างก็เรียกว่าเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) บ้างก็เรียกให้ดูดีขึ้นว่าเป็นกรีนซีซั่น ช่วงนี้จึงเป็นเวลาแห่งการทำตลาด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในฤดูท่องเที่ยว ช่วงเดือน พ.ย.ข้ามไปถึงเดือน มี.ค.ปีหน้า และเผื่อได้อานิสงส์ดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาพักช่วงโลว์ซีซั่นได้ด้วย เช่น การออกงานส่งเสริมการขาย ไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท พลัส 2015 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดวันที่ 3-5 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อพบตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวรายเดิมและรายใหม่

ฐาปนิทธ์ เทียบปัทมะ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด เคซี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม 2 แห่ง ที่หาดเฉวง เกาะสมุย แห่งแรก 95 ห้องพัก อีกแห่ง 42 ห้องพัก เปิดเผยว่า ตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเจรจาธุรกิจด้วย เริ่มแสดงความกังวลกับการเมืองไทยน้อยลง แต่ยังมีบ้างที่กังวลอยู่ว่าไทยยังไม่มีการเลือกตั้ง สิ่งที่กังวลมากกว่าการเมืองคือ ปัญหาเศรษฐกิจและค่าเงินมากกว่า เช่น ยุโรป จะต่อรองราคามากขึ้น อยากได้โปรโมชั่นของแถม เพราะค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง ทำให้ค่าใช้จ่ายที่มาเที่ยวไทยแพงขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้ การมาออกงานส่งเสริมการขายท่องเที่ยว จะเน้นเจาะตลาดออสเตรเลีย จีน และเกาหลีเป็นหลัก โดยเฉพาะจีน เนื่องจากมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) บินตรงจากจีนมาลงที่สมุยมากขึ้น เดินทางสะดวก ซึ่งปัจจุบันโรงแรมมีสัดส่วนลูกค้าจีน 10-15% ขณะที่อัตราเข้าพักเฉลี่ยช่วงนี้อยู่ที่ 80% ดีกว่าตลาดรวมซึ่งบางแห่งอาจอยู่ที่เพียง 50-60% เท่านั้น

ชำนาญกิจ รอดบุญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด เขาหลัก แอมเมอรัล บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา และเขาหลัก ไดมอนด์ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา กล่าวว่า ตัวแทนจำหน่ายที่มาในงานนี้ส่วนใหญ่จะมาขอโปรโมชั่นเพิ่มเติม หรือขอราคาห้องพักที่ถูกกว่าที่นำเสนอบนตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ (โอทีเอ) ไม่แสดงความกังวลอะไรเรื่องการเมืองไทยเลย

ทางด้านโรงแรมที่ผ่านมา ลูกค้าเป็นเยอรมนีและสแกนดิเนเวีย 70% จะเน้นมาออกงานส่งเสริมการขายเพื่อหาตลาดใหม่ๆ เติมเต็มยอดใช้บริการห้องพักในช่วงโลว์ซีซั่น เช่น อินเดีย จีน อียิปต์ และอังกฤษ เพราะที่ผ่านมากลุ่มนี้ยังไปเขาหลักน้อย โดยจะเน้นรับตลาดกรุ๊ปทัวร์มากกว่ากลุ่มเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (เอฟไอที)

“ปัจจุบันอัตราเข้าพักโรงแรมแถบเขาหลักส่วนใหญ่อยู่ที่ 30% เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ปีนี้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมีผลให้ยุโรปเดินทางมาน้อยลง ภูเก็ตและเขาหลักต่างได้รับผลกระทบกันหมด จึงต้องมองตลาดเอเชียเข้ามาเสริม บางโรงแรมไม่เคยรับตลาดจีนก็เริ่มรับ แต่อาจได้ราคาห้องพักต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย ขณะที่ตลาดราชการไทย ซึ่งมีหน่วยงานตั้งอยู่ในแถบภูเก็ต กระบี่ พังงา เป็นอีกตลาดน่าสนใจที่จะดึงมาจัดงานประชุมสัมมนา” ชำนาญกิจ กล่าว

สุภาวี ข้อเพชร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เดอะ เฮเว่น เขาหลัก, เขาหลัก บันดารี รีสอร์ท แอนด์ สปา และเขาหลัก โอเรียนทอล รีสอร์ท กล่าวว่า ตลาดเยอรมนีและสแกนดิเนเวียเป็นตลาดหลักๆ ของเขาหลัก ส่วนตลาดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นน่าสนใจคือ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และจีน ซึ่งตลาดเหล่านี้เข้ามาเที่ยวช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค. จึงเติมเต็มอัตราเข้าพักโลว์ซีซั่นได้ดี

สำหรับเดอะ เฮเว่น เขาหลัก เป็นรีสอร์ทเพิ่งเปิดใหม่ ก.พ. 2558 ก็จะเน้นรุกตลาดออสเตรเลียและอังกฤษมากขึ้นในปีนี้ รวมทั้งการเพิ่มตลาดคนไทยเที่ยวไทย เพราะที่ผ่านมาแม้เพิ่งเปิดโรงแรมแต่มีสัดส่วนคนไทยมาใช้บริการถึง 10% ของนักท่องเที่ยวรวม และเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายในโรงแรมสูงและอยู่ในประเทศสามารถเดินทางมาใช้บริการเมื่อไหร่ก็ได้ จึงตั้งใจเพิ่มสัดส่วนคนไทยมากขึ้นอีก

“ในอดีตคนไทยมาเที่ยวเขาหลักน้อยมาก แต่ปีนี้มาเที่ยวมากช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. อาจเพราะช่วงเวลานั้นมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง ประกอบกับมีนโยบายรัฐบาลที่ออกมาส่งเสริมคนไทยเที่ยวไทย ก็คงเป็นอีกปัจจัยที่มีส่วนบ้างทำให้คนไทยเดินทางเพิ่ม ขณะเดียวกันพฤติกรรมคนไทยก็เปลี่ยน จากเดิมพักโรงแรมอะไรก็ได้ ให้น้ำหนักไปที่ทริปดำน้ำเที่ยวทะเลมากกว่า แต่ปัจจุบันเลือกพักโรงแรมที่มีบรรยากาศดีวิวสวย และใช้จ่ายภายในโรงแรมมาก” สุภาวี กล่าว

จะเห็นได้ว่าโรงแรมแถบชายทะเลภาคใต้มองเอเชียเป็นตลาดสำคัญช่วยเติมเต็มโลว์ซีซั่นให้คึกคักขึ้น ส่วนจะทำได้แค่ไหนขึ้นกับกลยุทธ์แต่ละแห่ง