ผุดโรงแรมฮาลาล 'อัล-มีรอซ' เจาะกลุ่มมุสลิม
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
การทำธุรกิจโรงแรมแบบเดี่ยว บริหารจัดการเองไม่พึ่งพาเครือโรงแรมขนาดใหญ่ ปัจจัยสำคัญหนึ่งที่จะทำให้โรงแรมนั้นอยู่รอดได้ระยะยาวคือ ต้องมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ซึ่งการเลือกวางตำแหน่งให้เป็นโรงแรมที่ถูกหลัก “ฮาลาล” ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
อิมรอน มะลูลีม ประธานที่ปรึกษาโรงแรมอัล-มีรอซ เปิดเผยว่า คำว่า ฮาลาล แปลว่า ถูกต้องตามหลักศาสนบัญญัติของศาสนาอิสลาม โรงแรมฮาลาลจะมีบริการที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม เช่น ด้านการบริโภค ไม่มีแอลกอฮอล์ หรืออาหารต้องห้ามตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่มีบริการอโคจร ซึ่งอยู่นอกเหนือจากบัญญัติศาสนา มีห้องละหมาดแยกชายและหญิงชัดเจน มีทิศทางบอกการทำละหมาดเพื่ออำนวยความสะดวก
โรงแรมลักษณะที่กล่าวมานี้มีอยู่ในไทยบ้างแล้ว แต่เป็นโรงแรมขนาดเล็กๆ แต่ล่าสุด รอศักดิ์ มูลทรัพย์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีเอส แฟมมิลี่ กรุ๊ป ได้ลงทุนสร้างโรงแรมฮาลาล ระดับ 4 ดาวแห่งแรกในไทย ที่บริเวณรามคำแหงซอย 5 เดิมทีจะใช้ชื่อโครงการว่า เดอะ แกรนด์ เฮอริเทจ เรสซิเด้นท์ แต่จากการสำรวจกลับพบว่า มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ชื่อคล้ายคลึงกันอยู่มาก ก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ชื่อใหม่ที่แสดงสถานะความเป็นโรงแรมฮาลาลได้ชัดเจนขึ้นว่า “อัล-มีรอซ” ซึ่งมีความหมายเดียวกับคำว่า เฮอริเทจ
หลังจากโรงแรมแห่งนี้สร้างเสร็จแล้ว จะมีศักยภาพทางการตลาดสูงมาก เพราะทำเลที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย มีกลุ่มคนมุสลิมที่ต้องการเดินทางมาติดต่อกับศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยก็เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ
“ที่พักหลายที่มักจะประกาศว่าตัวเองถูกหลักฮาลาล แต่ไม่ใช่ที่พักที่สร้างขึ้นมาโดยคนมุสลิมจริงๆ ทำให้ลูกค้าชาวมุสลิมบางส่วนที่เคร่งครัดในหลักศาสนามากๆ ไม่มั่นใจใช้บริการ การมีโรงแรมอัล-
มีรอซ ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนมุสลิมจริงๆ สร้างและดำเนินงานภายใต้หลักฮาลาล จะทำให้คนมุสลิมมั่นใจเข้าพัก” อิมรอน กล่าว
ทางด้าน สัญญา แสงบุญ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมอัล-มีรอซ กล่าวว่า โรงแรมอัล-มีรอซ ใช้เงินลงทุนก่อสร้างไม่รวมค่าที่ดินไม่ต่ำกว่า 650 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อ 2 ปีก่อน คาดว่าจะเสร็จและพร้อมเปิดทดลองให้บริการได้เดือน มิ.ย. และเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเดือน ส.ค.
โรงแรมอัล-มีรอซ มีห้องพัก 250 ห้อง ถือเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่ประกาศเป็นโรงแรมฮาลาลชัดเจน แห่งที่ 3 ของโลกซึ่งตั้งอยู่นอกประเทศมุสลิม ส่วน 2 แห่งแรกอยู่ที่ไต้หวัน และญี่ปุ่น กลุ่มเป้าหมายหลักของโรงแรมอัล-มีรอซ คือ ตลาดนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีคนมุสลิมอยู่มาก เช่น อินโดนีเซีย บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียตอนกลาง เช่น อุซเบกิซสถาน คาซัคสถาน คนจีนที่เป็นมุสลิม นอกจากนี้ยังเจาะตลาดนักธุรกิจมุสลิมที่มาติดต่อธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ย่านนี้
“คนมุสลิมทั่วโลกมีกว่า 1,600 ล้านคน เหล่านี้เป็นกลุ่มเป้าหมายของโรงแรมทั้งสิ้น สัดส่วนผู้ใช้บริการโรงแรมนี้น่าจะเป็นนักท่องเที่ยว 80% นักธุรกิจ 20% จุดเด่นของโรงแรมนอกจากเป็นโรงแรมฮาลาลแล้ว ยังมีข้อได้เปรียบจากการอยู่ใกล้แอร์พอร์ตลิงค์ ใกล้ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ใกล้โรงพยาบาล แหล่งช็อปปิ้ง ตอบสนองกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากต่างชาติได้ดี ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกของโรงแรมก็สะท้อนให้เห็นความเป็นโรงแรมสำหรับคนมุสลิมชัดเจน” สัญญา กล่าว
ทั้งนี้ แม้โรงแรมอัล-มีรอซ ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คนมุสลิมจำนวนมากก็เริ่มรับรู้แล้วว่าจะมีโรงแรมฮาลาลระดับ 4 ดาวเกิดขึ้นในไทย ดังนั้นคาดว่าเมื่อเปิดให้บริการ ก็น่าจะมีกระแสตอบรับดี ปีแรกน่าจะทำอัตราเข้าพักเฉลี่ยได้ 55% แต่หลังจากนั้นคาดว่าใน 3 ปี อัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมน่าจะอยู่ที่ 80% ต่อปีได้ โดยนอกจากได้ตลาดนักท่องเที่ยว นักธุรกิจที่มาเข้าพักโรงแรมแล้ว คาดว่าจะได้รับตลาดแต่งงานของคนมุสลิมมาจัดที่นี่ด้วย
สัญญา กล่าวว่า โรงแรมอัล-มีรอซ จะมีห้องประชุมขนาดใหญ่สำหรับรองรับการจัดเลี้ยง 1,000-1,200 คนได้ และสามารถแบ่งเป็นห้องประชุมย่อยๆ รองรับงานประชุม การจัดเลี้ยงขนาดย่อยๆ ได้เช่นกัน นอกจากรับจัดเลี้ยงงานแต่งงานคนมุสลิมแล้ว อนาคตมีเป้าหมายโรงแรมอัล-มีรอซ น่าจะประมูลดึงงานประชุม สัมมนา นิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (ไมซ์) จากกลุ่มประเทศมุสลิมมาจัดที่โรงแรมได้ โดยแนวทางการทำตลาดโรงแรมอัล-มีรอซ หลังจากนี้คือการไปร่วมโรดโชว์และเทรดโชว์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมถึงสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า)
สำหรับราคาห้องพักนั้นในช่วงเปิดตัวโรงแรมน่าจะทำราคาได้ในระดับกว่า 2,000 บาท ส่วนอนาคตก็มีโอกาสที่จะขยับราคาห้องพักไปถึงระดับ 3,000-4,000 บาท ได้ไม่ยาก คาดว่าจะใช้เวลา 7 ปีถึงจุดคุ้มทุน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะถึงจุดคุ้มทุนใน 5 ปี เพราะเป็นโรงแรมที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
เมื่อคนมุสลิมทั่วโลกมีมาก จึงถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้ลงทุนโรงแรมที่รู้จักสร้างโรงแรมฮาลาลให้ตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง


