posttoday

สนั่น อังอุบลกุล 'ลงทุนไม่ใช่เสี่ยงโชค'

17 เมษายน 2558

จากจุดเริ่มต้นธุรกิจของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น กะละมัง ถังน้ำ รายเล็กๆ

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

จากจุดเริ่มต้นธุรกิจของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น กะละมัง ถังน้ำ รายเล็กๆ แต่ได้นำนวัตกรรมมาใช้ในการทำธุรกิจ รวมทั้งความเข้าใจตลาด ศึกษาก่อนการลงทุน เป็นหัวใจสำคัญของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ร่วม 52 ปี กระทั่งขายภาชนะเมลามีนไปไกลทั่วโลก

สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเมลามีน กล่าวว่า ก่อนจะมีศรีไทยซุปเปอร์แวร์ในทุกวันนี้ แรกเริ่มเดิมทีธุรกิจเริ่มจากการผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น กะละมัง ถังน้ำ และของเล่นสำหรับเด็ก โดย สุมิตร เลิศสุมิตรกุล เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทอุตสาหกรรมภายในครอบครัว ใช้ชื่อว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุตสาหกรรมศรีไทยพลาสติก เมื่อปี 2506

แต่หลังจากธุรกิจขยายตัวมาในระยะหนึ่งแล้ว จึงมองว่า ต้องพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ มานำเสนอให้กับผู้บริโภค หรือเรียกว่าต้องใช้นวัตกรรมใหม่ๆ สร้างตลาดให้เติบโตยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากเดินทางไปดูงานสิงคโปร์ พบว่า มีการใช้ภาชนะผลิตเมลามีนอย่างแพร่หลายในสิงคโปร์ จึงสนใจลงทุนผลิตเมลามีนออกมาจำหน่ายบ้าง แต่ในห้วงเวลานั้นกลับไม่มีสถาบันการเงินที่ใดให้สินเชื่อกับบริษัท เพราะกังวลด้านความปลอดภัยในกระบวนการผลิต

แต่โชคดีที่ได้รับโอกาสจากธนาคารกรุงเทพอนุมัติสินเชื่อให้ จึงทำให้ธุรกิจเมลามีนแจ้งเกิดได้ แรกเริ่มบริษัทผลิตลังเมลามีนป้อนให้กับบริษัทเครื่องดื่ม อาทิ โค้ก เป๊ปซี่ กรีนสปอต

จากนั้นเมื่อตลาดภายในประเทศเติบโตอย่างมั่นคง ศรีไทยฯ จึงวางแผนสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น จึงตัดสินใจรุกขยายตลาดส่งออกมากกว่าจะเข้าไปตั้งโรงงานผลิตในประเทศนั้นๆ

“หากจะเข้าไปตั้งโรงงานในต่างประเทศ ต้องศึกษาตลาดและเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ไม่ควรเข้าไปตั้งโรงงาน ทั้งๆ ที่ไม่รู้อะไร เพราะการลงทุนไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม
พึงระลึกเสมอว่าไม่ใช่เป็นการเสี่ยงโชค อย่างน้อยต้องมีคนนำทาง สูตรการตั้งโรงงาน ย้ำอยู่เสมอควรจะเป็นการลงทุนกับพันธมิตร แม้ว่าการลงทุนได้เอง 100% ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ดีก็ตาม” สนั่นกล่าว

นับเป็นเวลากว่า 25 ปี บริษัทจึงเข้าไปลงทุนสร้างโรงงานที่จีน ยอมรับว่าเป็นความท้าทายมาก เพราะพฤติกรรมคนจีนนิยมใช้กระเบื้อง แต่ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จจากการทำตลาด กระทั่งคนจีนใช้เมลามีนแทนกระเบื้อง

ต่อมาธุรกิจก็เริ่มประสบปัญหาในปี 2540 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ บริษัทต้องปรับแผนฟื้นฟู เมื่อพิจารณาถึงเมลามีน มีข้อเสียเป็นสินค้าที่การใช้งานทนทานมากเกินไป อัตราการซื้อสินค้าจึงไม่ได้เพิ่มขึ้น

จากนั้นศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จึงคิดแตกไลน์เมลามีนสู่การทำบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพร้อมทานและเครื่องดื่ม ป้อนให้กับร้านสะดวกซื้อ โมเดิร์นเทรด และกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทาน นอกจากนี้ยังทำไลเซนส์บรรจุภัณฑ์กระป๋องใส่ป๊อปคอร์น น้ำดื่ม ให้กับโรงภาพยนตร์ ทั้งในไทยและอาเซียน ต่างใช้ผลิตภัณฑ์ของเราแทบทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่า บริษัทใช้นวัตกรรมขยายตลาดตลอดเวลา รวมทั้งการรังสรรค์ลวดลายต่างๆ บนภาชนะ

ในระหว่างนี้ กำลังปลุกปั้นบริษัทร่วมทุนในมาเลเซีย เพื่อส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในอินโดนีเซียได้ง่ายขึ้น เพราะเป็นประเทศมุสลิมเหมือนกัน ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ สิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ต้องสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่น และประการสุดท้าย คือการบริหารบุคลากรท้องถิ่น และข้อเตือนใจสำหรับการเข้าไปทำตลาดต่างประเทศ ไปแล้วอย่าคิดว่ามีลูกค้าแน่นอน

การทำตลาดทุกวันนี้ จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ ต้องขยายหรือนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา นั่นคือ ยุทธศาสตร์ที่ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ให้ความสำคัญและเป็นอาวุธนำพาให้ธุรกิจเติบใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขา กระทั่งปัจจุบันมีลูกค้าครอบคลุม 120 ประเทศ พร้อมกับวางเป้าหมายปลุกปั้นแบรนด์ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก