นิมเบิลฯรุกงานเครือข่าย เจาะรายย่อยลงทุนดิจิทัล
การเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
การเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของกิจการที่มาพร้อมกับการลงทุนภายในองค์กร ที่รวมถึงงานระบบสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่เริ่มขยายความต้องการไปในกลุ่มเอสเอ็มอีมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดิจิทัล อีโคโนมี ภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบันที่ต้องการใช้ไอซีทีเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
กิตติเดช นิ้มวงษ์เจริญสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิมเบิล คอปอเรชัน ผู้ให้บริการงานวางระบบเครือข่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ครบวงจร กล่าวถึงแนวโน้มความต้องการงานวางระบบเครือข่าย (เน็ตเวิร์กกิ้ง) คอมพิวเตอร์ในกลุ่มเอสเอ็มอีในขณะนี้เริ่มมีการตื่นตัว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ ที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการวางระบบเครือข่ายในองค์กรมากขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีการลงทุนระบบไอทีมากที่สุดผ่านฐานข้อมูลของบริษัทในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จะเป็นกลุ่มในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน ที่มีการขยายงานผ่านการก่อสร้างโรงงานย่อยเป็นจำนวนมาก และกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างต่างๆ ที่มีความต้องการใช้งานในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ประจำในไซต์งานก่อสร้างต่างๆ เป็นต้น
“ในปีนี้คาดว่าจะยังมีกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการลงทุนในระบบไอทีเพิ่มสูงขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 20% เทียบกับในปีก่อน หากไม่มีปัจจัยลบนอกเหนือการควบคุมเข้ามากระทบ อาทิ ปัญหาการเมืองในประเทศ และภัยธรรมชาติ ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนงานระบบด้านดังกล่าวเช่นกัน” กิตติเดช กล่าว
กิตติเดช เล่าย้อนที่มาของธุรกิจดังกล่าวที่เริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ได้มาจากประสบการณ์ในการทำงานด้านวิศวกรโทรคมนาคมในบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่งก่อนตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อหันไปจับธุรกิจตัวเองด้านซื้อมาขายไป (เทรดดิ้ง) สินค้าอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างยี่ห้อโนเกียที่ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงนั้น ก่อนขยับขยายไปยังสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า ของพรีเมียมต่างๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กร
ขณะเดียวกัน ช่วงดังกล่าวได้ไปศึกษาต่อด้านเอ็มบีเอ ซึ่งทำให้มีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนในกลุ่มเพื่อนๆ ทำให้มีโอกาสนำเสนองานติดตั้งระบบสำรองไฟให้กับส่วนงานภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ย่านหนองจอก ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายแรก จากนั้นก็เริ่มขยายรูปแบบงานบริการไปสู่การวางระบบเครือข่ายต่อไปเรื่อยๆ จนถึงในปัจจุบัน ที่บริษัทมีฐานลูกค้าเอสเอ็ม
อีไม่ต่ำกว่า 300 ราย ในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา
ขณะที่ค่าบริการในการวางระบบของบริษัทนั้นจะมีอัตราแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับรายละเอียดและความต้องการของลูกค้า โดยเริ่มต้นตั้งแต่กิจการที่ไม่เคยมีระบบงานไอทีมาก่อนเลย หรือมีความต้องการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ต่ำกว่า 10 เครื่องขึ้นไป บริษัทก็สามารถเข้าไปให้บริการให้คำปรึกษาพร้อมแนะนำรูปแบบการวางระบบเครือข่ายที่เหมาะสมได้ โดยเฉลี่ยค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่หลัก 2 แสนบาทขึ้นไป
ปัจจุบันบริษัทเป็นพันธมิตรร่วมกับเจ้าของสินค้าไอทีแบรนด์ต่างๆ เพื่อสามารถให้บริการติดตั้งงานระบบเครือข่ายสารสนเทศได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ งานวางระบบแลน ไวร์เลส บริการเซอร์วิส ไคลแอนท์ รวมทั้งการจัดหาซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ให้กับลูกค้า ทั้งระบบปฏิบัติการ (โอเอส) หลักๆ อย่างวินโดวส์ หรือซอฟต์แวร์โปรแกรมเฉพาะทาง เช่น งานบัญชี กราฟฟิก เป็นต้น
กิตติเดช กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันรูปแบบการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารของผู้บริโภคราว 20-30% เปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคโมบายมากขึ้น ทำให้เจ้าของสินค้าไอทีแบรนด์ระดับโลกต่างเกาะเทรนด์ดังกล่าวเอาไว้ แต่ก็เชื่อว่าการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) จะยังมีความต้องการอยู่ในตลาด ซึ่งการที่บริษัทมีพันธมิตรสินค้าแบรนด์ไอทีชั้นนำต่างๆ ก็สามารถเตรียมความพร้อมเพื่อปรับตัวในการให้บริการงานวางระบบเครือข่ายได้ด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีเว็บไซต์ www.nimblecorporation.com และ www.itorderonline.com เพื่อแนะนำบริการงานวางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สินค้าไอที และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีได้ทั่วประเทศ จากปัจจุบันบริษัทสามารถให้บริการงานวางระบบพร้อมติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายในพื้นที่หลัก กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง
โดยในปี 2558 บริษัทวางเป้าหมายเติบโตอยู่ที่ 20% ตามแนวโน้มของการลงทุนด้านไอทีของเอสเอ็มอีในปีนี้เช่นกัน จากปีก่อนมีรายได้ 58 ล้านบาท
ถือเป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมาต่อยอดธุรกิจและขยายเครือข่ายให้สอดรับกับเศรษฐกิจไทยที่ก้าวสู่ดิจิทัล


