‘ปิยจิต รักอริยะพงศ์’ ภารกิจดันเซ็ปเป้เป็นโกลบอลแบรนด์
โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง / ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง / ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
“ปิยจิต รักอริยะพงศ์” เพิ่งขึ้นมาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ (SAPPE) อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือน ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา หลังพี่ชายคนโต “อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์” ขยับจากซีอีโอขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหาร โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปีครึ่ง เธอดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน
“ปิยจิต” เล่าว่า พี่น้องทั้งหมด 4 คน มีดีเอ็นเอการขายของมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากช่วยคุณพ่อคุณแม่ขายของจำพวกขนมขบเคี้ยวและขนมไทยมา จนเติบโตเป็นบริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด
จากนั้น “อดิศักดิ์” กลับมาช่วยจนบริษัท เซ็ปเป้ เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำผลไม้เพื่อรักษาสุขภาพและความงามจนเป็นที่รู้จักมากในต่างประเทศ ช่วงที่พี่ชายคนโตกับน้องชายช่วยกันบุกเบิกเซ็ปเป้ เธอยังคงทำงานในสายงานที่เรียนที่ต่างประเทศ หลังจบปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) ที่ University of Sheffield ประเทศอังกฤษ และต่อปริญญาโทที่สหรัฐ
ทว่า เรียนจบในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งพอดี ทางบ้านเห็นว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดี จึงให้ทำงานที่นั่นเพื่อกระจายความเสี่ยงของครอบครัว เธอมีประสบการณ์ทางการเงินมากมาย เช่น ดูแลเรื่องค่าเงิน รับผิดชอบในงานขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของบริษัทหลักทรัพย์ บาร์เคลย์ แคปปิตอล รวมถึงย้ายมาเริ่มตั้งฝ่ายใหม่ในแบงก์ฝรั่งเศสอย่าง ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ ด้วย และเธอทำงานที่ต่างประเทศนาน 16-17 ปี ถึงตัดสินใจกลับมาช่วยงานที่บ้าน เพราะมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งเธอพร้อมจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาทำให้บริษัทเติบโตและไปสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์ระดับโลกให้ได้
ครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายใหม่ เพราะตลอดที่ผ่านมาทำแต่ของคนอื่น แต่นี้ต้องเริ่มวางแผนและปรับเปลี่ยนระบบงานใหม่หลายอย่าง ที่สำคัญคือ การทำให้พนักงานรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของที่มีส่วนร่วมกันรับผิดชอบต่อการเติบโตของบริษัท และความที่ตัวเองปกติเป็นคนสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว มองทุกอย่างสามารถทำได้ เพียงอย่าไปหยุดท้อกับมัน ประกอบกับเป็นคนวางเป้าหมายในการทำงานชัดเจน อย่างบริษัทเมื่อตั้งเป้าชัดแล้วว่าจะไปทางไหน ที่เหลือคือต้องปฏิบัติให้เดินไปตามหนทางนั้น
ทั้งนี้ ซีอีโอหญิงคนใหม่ได้กำหนดเป้าหมายภายใน 3-5 ปี บริษัทจะเริ่มเข้าสู่การเป็นโกลบอล แบรนด์อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่า SAPPE จะมีมูลค่าแบรนด์ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้ได้


