posttoday

เริ่มต้นจากหลักพัน...สู่ธุรกิจหลักล้าน

02 เมษายน 2558

โดย...พัชร สมะลาภา

โดย...พัชร สมะลาภา

เงินหนึ่งพันบาทของแต่ละท่านนำไปทำอะไรกันบ้างครับ ...ผมว่าส่วนใหญ่หลายท่านมักจะนำไปซื้อของกินของใช้ตามที่ต้องการ ...แต่รู้ไหมครับว่าเงินหนึ่งพันบาทสำหรับเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งเขาสามารถต่อยอดจนสร้างธุรกิจหลักล้านได้ ลองมาฟังเรื่องราวน่าสนใจของเอ็ม เจ้าของธุรกิจขายส่งถุงเท้ายี่ห้อ M.Socks กันครับ

เอ็มเด็กวัยรุ่นอายุน้อย หลังจากเรียนจบก็เริ่มต้นอาชีพด้วยการทำงานประจำ จนวันหนึ่งคุณพ่อป่วยเป็นอัมพาต ด้วยความกตัญญู เอ็มยอมลาออกจากงานเพื่อมาดูแลคุณพ่อ ช่วงที่อยู่บ้านเอ็มคิดหาอาชีพที่สร้างรายได้ ความคิดอยากขายถุงเท้าบรรเจิดขึ้น เมื่อเห็นว่าพี่สาวมีร้านขายรองเท้ามือสอง เอ็มเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 1,000 บาท ในการหาซื้อถุงเท้าเกือบทุกลายที่มีขายในสำเพ็งมาวางขายหน้าร้านพี่สาว ไม่น่าเชื่อว่าได้รับการตอบรับดีมาก เพราะลูกค้าที่ซื้อรองเท้ามักจะซื้อถุงเท้าติดไม้ติดมือกลับไปด้วย

หลังจากนั้นเอ็มและพี่สาวจึงคิดลงทุนขายถุงเท้าอย่างจริงจัง แต่ครั้นจะขายแต่หน้าร้านอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะทุนคงจม เลยลองขายผ่านอินเทอร์เน็ต ทำ Facebook ขึ้นโดยใช้ชื่อ Facebook ว่า “ขายส่งถุงเท้า 10 บาท” จากเงินแค่หลักพัน ทุกวันนี้เอ็มสร้างยอดขายถุงเท้าได้หลักล้านต่อเดือน ไม่ใช่แค่ขายในไทยเท่านั้น ถุงเท้า M.Socks ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ M.Socks เป็นเจ้าตลาดได้ นั่นเพราะกลยุทธ์เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้า ที่หนุ่มเอ็มภาคภูมิใจ เขาสามารถเปลี่ยนคู่แข่งในสำเพ็ง ให้กลายเป็นคู่ค้าที่สั่งถุงเท้าจาก M.Socks ไปขายได้ จนทำให้ทุกวันนี้ยอดขายถุงเท้า พุ่งสูงขึ้นโดยเฉลี่ยถึงเดือนละ 2 ล้านบาททีเดียว

จุดเด่นที่ทำให้ถุงเท้าแบรนด์ M.Socks ได้รับความนิยมและขายดี คงหนีไม่พ้นเรื่อง ราคาถูกที่สุด เรียกได้ว่าแทบจะถูกที่สุดในตลาดถุงเท้าของไทย แต่นอกจากเรื่องราคา ต้องยอมรับว่ารูปแบบของถุงเท้า ลวดลายที่มีให้ลูกค้าเลือกมาก และทุกเดือนจะมีถุงเท้าลายใหม่ๆ มานำเสนอ เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูดให้ลูกค้าชื่นชอบในถุงเท้าของ M.Socks

แม้ว่า M.Socks จะขายดีเพราะด้วยเหตุผลในด้านราคาที่ถือว่าถูกที่สุดในตลาด แต่ผมมองว่ามีจุดอ่อนบางประการ ที่หากว่า M.Socks สามารถปิดจุดอ่อนนี้ได้ จะทำให้เขาครองความเป็นเจ้าตลาดถุงเท้าราคาถูกได้อย่างยั่งยืน ซึ่งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอื่นๆ สามารถนำสิ่งนี้ไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้เช่นกัน

1.ต้องสร้างแบรนด์ การทำธุรกิจทุกชนิดแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญมาก แม้ว่าสินค้าของเราจะมีจุดเด่น เช่น เรื่องราคาที่ถูกที่สุด แต่หากไม่มีแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำ สักวันหนึ่งหากมีสินค้าแบบเดียวกันแต่ราคาถูกกว่า ลูกค้าก็จะเลือกซื้อสินค้านั้นแทนสินค้าของเรา

2.ต้องรู้จักว่าลูกค้าเราเป็นใคร หัวใจสำคัญที่สุดของธุรกิจคือต้องรู้ให้ได้ว่า ใครควรจะเป็นลูกค้าประจำผู้ชื่นชอบและหลงใหลในธุรกิจของเรา เราต้องรู้ว่าของที่เราผลิต เราผลิตให้ใครใช้ ใครควรเป็นคนซื้อ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มากำหนดกลยุทธ์ในการขายสินค้าอย่างถูกต้อง

3.การขยายตลาด ไม่จำเป็นต้องเพิ่มสาขา การเพิ่มสาขาเท่ากับเป็นการเพิ่มต้นทุน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงสูง ดังนั้นในระยะแรกผู้ประกอบการควรขายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย จนเกิดความมั่นใจว่าธุรกิจมั่นคงพอที่จะเพิ่มสาขารองรับการเติบโตในอนาคตได้

ผมเชื่อนะครับว่าทุกธุรกิจถ้ามีแผนการตลาดที่ดี กลยุทธ์ที่เหมาะสม สินค้าที่ครองใจ และราคาที่ถูกใจผู้บริโภค ความเป็นที่หนึ่งไม่ไปไหนไกลครับ อย่างธุรกิจ M.Socks ของหนุ่มเอ็ม ธุรกิจที่เริ่มต้นจากความกตัญญู แต่สามารถยืนหยัดในตลาดได้อย่างภาคภูมิ และหากสามารถปิดจุดอ่อนบางอย่างได้ครบถ้วน อีกไม่นานคงได้ยินชื่อ M.Socks เป็นแบรนด์ถุงเท้าอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคอย่างแน่นอนครับ

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ