เจาะลึกด่านชายแดน ชี้ช่องลงทุน-การค้า
การค้าชายแดนมีบทบาทมากในการส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดเพื่อนบ้าน
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
“การค้าชายแดนมีบทบาทมากในการส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งระบบโลจิสติกส์เป็นอีกเรื่องที่ประเทศในภูมิภาคนี้ให้ความสำคัญ เพราะจะเป็นตัวชี้วัดขีดการแข่งขันทั้งด้านต้นทุนการผลิต และความรวดเร็วในการกระจายสินค้า” สมเกียรติ ผู้มีชัยวงศ์ ประธานชมรมคลัสเตอร์การค้าไทย ฉายภาพการค้าชายแดนในปัจจุบัน
จากการลงพื้นที่ทำงานเพื่อเก็บข้อมูล สมเกียรติ เห็นว่า การค้าชายแดนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมาหลายปี นับเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมขยายตลาดได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อสแกนไปทีละด่าน จะเห็นว่าด่านที่มีความคึกคักมากจะอยู่ในโซนภาคเหนือและอีสาน และแต่ละแห่งก็มีโอกาสธุรกิจที่แตกต่างกันไป
ในกรณีของด่านแม่สอด จ.ตาก ที่เชื่อมต่อกับเมืองเมียวดีของพม่านั้น ธุรกิจโลจิสติกส์เป็นโอกาสที่ต้องให้ความสนใจ เพราะจะส่งผลต่อต้นทุนสินค้าไทยที่จะส่งออกไปตลาดเพื่อนบ้าน หากระบบโลจิสติกส์ดีก็จะเหมือนติดปีกให้สินค้าที่นอกจากจะลดต้นทุนแล้วก็จะช่วยให้กระจายไปสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งไปเมียวดีกอกาเร็ก ผาอัน มัณฑะเลย์ หรือข้ามประเทศไปถึงอินเดียได้
“การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างสะดวกรวดเร็วขึ้นอีกทั้งการผ่อนคลายกฎระเบียบด้านคมนาคมขนส่งข้ามพรมแดนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะยิ่งเอื้อให้เกิดกิจกรรมการคมนาคมขนส่งเพิ่มมากขึ้นจึงเป็นโอกาสของธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยที่จะได้รับผลดีจากความต้องการใช้บริการโลจิสติกส์ขนส่งระหว่างประเทศผ่านเส้นทางทางบกที่เพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตของการค้าและการลงทุนภายใต้เออีซี”
สมเกียรติ ยังประเมินด้วยว่า ด่านเชียงแสนเป็นด่านที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นเส้นทางที่สามารถขนส่งสินค้าเข้าไปยังรัฐฉานของพม่า ก่อนจะส่งต่อเข้าไปยังประเทศจีนได้ ซึ่งตลาดนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และสินค้าโอท็อปของไทย เพราะพม่าเป็นตลาดที่ใหญ่และยังมีความต้องการสินค้าอุปโภคและบริโภคอีกมาก
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่มีโอกาสเติบโตผ่านช่องทางการค้าชายแดน ส่วนใหญ่คือกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ พม่า ลาวและกัมพูชา มีการนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้จากไทยค่อนข้างมากทั้งกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เครื่องดื่มประเภทที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำตาลทราย อาหารสดและอาหารสดแช่แข็ง เป็นต้น
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและถนอมผิวพรรณ และเครื่องสำอาง ก็มีโอกาสสดใส เช่นเดียวกับกลุ่มอาหารทะเล อาหารแปรรูป และวัสดุก่อสร้าง ที่มีการเติบโตสูงมาก เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จึงทำให้เกิดการก่อสร้างต่างๆ ขึ้นมากมาย ส่งผลให้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างโตตามไปด้วย
นอกจากด้านการค้าแล้ว ก็ยังมีบางด่านชายแดนที่โดดเด่นด้านการท่องเที่ยว อาทิ ด่านเชียงของ จ.เชียงราย ที่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยจะเป็นเส้นทางเชื่อมจากจีนตอนใต้ (คุนหมิง นานกิง สิบสองปันนา) ผ่านลาวเข้ามายังไทย
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการทำธุรกิจหรือขยายธุรกิจด้านการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ศักยภาพการท่องเที่ยวของด่านการค้าชายแดนนั้นๆ รูปแบบหรือวัตถุประสงค์ของการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในทำเลดังกล่าว ศักยภาพความพร้อมของที่พักและจำนวนห้องพักที่รองรับในทำเลดังกล่าว รวมถึงการประเมินความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกัน จ.มุกดาหาร เป็นอีกจุดที่เหมาะสมสำหรับการโปรโมทการท่องเที่ยว เนื่องจากสามารถเชื่อมเข้าไปยังแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว และเข้าไปถึงเมืองเว้และดานังของเวียดนามได้ เช่นเดียวกับด่านช่องแม็ก จ.อุบลราชธานี ที่เชื่อมกับแขวงปากเซของลาว ช่องทางนี้นอกจากจะส่งเสริมการท่องเที่ยวได้แล้ว ยังมีจุดเด่นเรื่องนำเข้าวัตถุดิบสินค้าเกษตรจากลาวมายังไทยได้ด้วย
ท่ามกลางโอกาสต่างๆสมเกียรติยังชี้ให้เห็นจุดอ่อนในบางด่าน หากไม่แก้ไขจะกลายเป็นปัญหาหนักในอนาคต เช่น ด่านอรัญประเทศ หรือตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว เนื่องจากแผงขายสินค้าในตลาดโรงเกลือมีราคาค่าเช่าสูง โดยแผงร้านค้าขนาด 2.5 X 2.5 เมตร มีค่าเช่าหลักหมื่นต่อเดือน ขณะที่กำลังซื้อในพื้นที่เริ่มลดลง จึงทำให้ยอดขายของผู้ค้าในตลาดลดลง
แต่ในวิกฤตก็อาจเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ช่องทางดังกล่าวไปบุกตลาดกัมพูชามากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองเศรษฐกิจหลักของกัมพูชาอย่างพนมเปญ เสียมราฐและพระตะบอง ซึ่งอาจจะต้องใช้โมเดลหาคู่ค้าที่เป็นคนท้องถิ่นเพื่อเจาะตลาดเหล่านี้
เช่นเดียวกับด่านสะเดาและปาดังเบซาร์ จ.สงขลา สินค้าไทยที่ส่งไปขายบริเวณชายแดนมักจะประสบปัญหาขายไม่ได้ เพราะยังไม่ตรงกับความต้องการของชาวมาเลเซียมากนัก ดังนั้นควรศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและสำรวจความต้องการของตลาดมาเลเซียให้ดีก่อนส่งสินค้าไปจำหน่าย
“โอกาสของการค้าชายแดนยังมีอยู่ เพียงแต่ต้องมองให้ออกว่าอยู่ตรงไหน แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า การมีชายแดนเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะนำเข้าหรือใช้วัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้านมาต่อยอด เพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของสินค้าในตลาดโลกได้มากกว่า” สมเกียรติ สรุป


