เฟดและกรีซ ความเสี่ยงค่าเงินสัปดาห์นี้

โดย...ปารีณา พ่วงศิริ

สัปดาห์นี้ คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.50-32.80 บาท/เหรียญสหรัฐ เป็นกรอบที่กว้างขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากจะมีปัจจัยเข้ามาขับเคลื่อนตลาดเพิ่มมากขึ้น ในสัปดาห์นี้มีปัจจัยหลักๆ 2 ประเด็นที่น่าจับตามอง คือ ความคืบหน้าของการเจรจาเรื่องหนี้ของกรีซ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่สองสัปดาห์ที่ผ่านมาและในสัปดาห์นี้ถือว่ามีความสำคัญ เพราะมีเส้นตายของโปรแกรมเงินกู้ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้

หากกรีซยังไม่สามรถตกลงกับเจ้าหนี้ได้ อาจทำให้ยังเห็นการแห่ถอนเงินของคนกรีซจากธนาคารอย่างต่อเนื่องและนำไปสู่จิตวิทยาเชิงลบของนักลงทุนในตลาดได้ รวมถึงต้องระวังเรื่องการออกมาตรการควบคุมเงินทุน (Capital Control) หากการแห่ถอนเงินรุนแรง อย่างไรก็ดี หากข้อตกลงบรรลุลงได้จะช่วยให้ราคาของสินทรัพย์เสี่ยงปรับสูงขึ้นจากการผ่อนคลายความกังวลลง

สำหรับอีกปัจจัย คือ คำแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจเน็ต เยลเลน ต่อหน้าสภาคองเกรส เกี่ยวกับการทำนโยบายการเงินของเฟด ในวันที่ 24 ก.พ. โดยนักลงทุนคาดว่าจะได้เห็นการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในระยะต่อไปด้วย

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินสหรัฐที่สะท้อนว่าเฟดยังไม่รีบร้อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่การที่เศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ความจำเป็นในการใช้ดอกเบี้ยนโยบายแบบเตี้ยติดดินเช่นนี้มีความจำเป็นลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นเราคงหลีกเลี่ยงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ได้ยากขึ้นอยู่กับว่าจะปรับขึ้นเมื่อใด

นอกจากนี้  ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ของสหรัฐ (เป็นการรายงานรอบที่ 2) คำสั่งซื้อสินค้าคงทน อัตราเงินเฟ้อ ยอดขายบ้านมือสอง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจไทย กระทรวงพาณิชย์จะมีการรายงานตัวเลขการส่งออกไทยในเดือน ม.ค. ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจประจำเดือน

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างแคบระหว่าง 32.52-32.60 บาท/เหรียญสหรัฐ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงเทศกาลตรุษจีนและหลายตลาดในเอเชียหยุดทำการ ทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลงกว่าปกติ การรายงานตัวเลขจีดีพีของไทยช่วงต้นสัปดาห์ที่ออกม้าแสดงให้เห็นว่าไตรมาส 4 ปี 2557 ขยายตัวได้น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินนัก โดยรวมตลาดรอดูความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ว่าจะมีผลออกมาเช่นไร ทำให้การไหลเข้า-ออกของเงินทุนไม่มากนัก โดยเห็นนักลงทุนต่างชาติ เข้ามาเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 5,150 ล้านบาท แต่เป็นผู้ขายสุทธิหุ้นไทย 5,070 ล้านบาท ถือเป็นการไหลเข้าออกที่ค่อนข้างสมดุล

ด้านเงินยูโรเปิดตลาดที่ 1.1384 โดยเคลื่อนไหวตามปัจจัยเรื่องหนี้ของกรีซ ในกรอบ 1.1304-1.1450 โดยต้นสัปดาห์เหล่ารัฐมนตรีคลังของยูโรโซน 19 ประเทศ มีการประชุมเจรจาเรื่องกรีซต่อเนื่อง แต่ไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ และช่วงปลายสัปดาห์ที่ตลาดเอเชียปิดทำการแล้วมีการประชุมพิเศษระหว่างเหล่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซนอีกครั้ง ปลายสัปดาห์ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับประมาณ 1.1339 (ณ วันศุกร์ เวลา 18.00 น.)

ขณะที่เงินเยนเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ระดับ 118.74 มีประเด็นหนุนไม่ให้ค่าเงินอ่อนลง จากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ที่พลิกกลับมาขยายตัวได้ และการประชุมนโยบายการเงินเป็นไปตามคาด คือคงการผ่อนคลายเอาไว้ในระดับเดิมบวกการส่งออกดี เงินเยนปิดตลาดใกล้เคียงต้นสัปดาห์ที่ 118.67