posttoday

เกาะเทรนด์ฮิตปั่นจักรยาน แม่สอด ‘ฮับ’ ป้อนรถมือ 2

19 กุมภาพันธ์ 2558

ปัจจุบันกระแสการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในสังคมเมือง

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

ปัจจุบันกระแสการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในสังคมเมือง แถมยังกระจายไปตามหัวเมืองต่างๆ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรุงเทพฯ ทำให้ธุรกิจขายจักรยานกำลังฮอตฮิตอย่างมาก

แต่บางครั้งราคารถใหม่ที่แพงเกินไป ทำให้คนหันไปซื้อจักรยานมือสอง ซึ่งกลายเป็นโอกาสธุรกิจที่น่าสนใจรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคลังกระจายจักรยานมือสองแหล่งใหญ่ของไทยอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่านี่เอง

ชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เล่าถึงที่มาที่ไปของแหล่งรวมและกระจายรถจักรยานมือสองจากญี่ปุ่นขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของไทยที่รวมตัวกันอยู่ที่คลังสินค้าหมาย 9 (คลังเฮียกวง) บริเวณด่านชายแดนแม่สอด จ.ตาก ว่า จักรยานมือสองเหล่านี้เป็นสินค้าประมูลมาจากประเทศญี่ปุ่น ที่ส่งมาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบังก่อนกระจายไปตามชายแดนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะที่ “ด่านแม่สอด”

สำหรับจักรยานที่ศูนย์กระจายสินค้าที่นี่ จะมีลูกค้าหลักๆ 2 กลุ่ม คือ พ่อค้าจากจังหวัดต่างๆ ของไทยที่เข้ามาเลือกจักรยานมือสอง นำไปปรับปรุงสภาพให้ดีขึ้น ก่อนนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งกลุ่มนี้จะซื้อจักรยานไปประมาณ 20% ของทั้งหมด

ส่วนจักรยานที่เหลือราว 80% จะมีพ่อค้าชาวพม่านำไปจำหน่ายต่อในประเทศพม่า ซึ่งมีแนวโน้มว่าธุรกิจดังกล่าวจะเติบโตขึ้นอีก เห็นได้จากรายได้การจัดเก็บภาษีศุลกากรของด่านแม่สอดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสินค้าประเภทนี้ ซึ่งทำให้เป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจและมาแรง สร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจชายแดนแม่สอด

“ธุรกิจรถจักรยานมือสองเติบโตมาก เพราะคนสนใจขี่จักรยานออกกำลังกายมากขึ้น จนกลายเป็นเทรนด์ของคนเมือง ส่วนชาวพม่านิยมใช้รถจักรยานอยู่แล้ว โดยเฉพาะแรงงานตามชายแดนที่ปั่นจักรยานไปทำงาน” ชัยวัฒน์ วิเคราะห์

สำหรับราคารถจักรยานมือสองจะอยู่ที่คันละ 1,000-1 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับเกรด คุณภาพและสภาพของจักรยาน อีกทั้งขึ้นอยู่กับพ่อค้าที่มือเลือกซื้อด้วย เพราะหากชำนาญก็สามารถเลือกซื้อโครงรถจักรยานมือสองจากญี่ปุ่นที่มีสภาพดีพอใช้ได้ไปปรับสภาพ แล้วนำไปขายต่อในราคาที่สูง สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัวทีเดียว

ปภาวดี เต็มใจเจริญ ผู้ดูแลคลังสินค้าหมายเลข 9 บอกว่า คลัง 9 เป็น 1 ใน 22 คลังของ อ.แม่สอด และเป็นแหล่งพักจักรยานมือสองก่อนจะทำการ “แพ็กกิ้ง” ส่งต่อไปยังประเทศที่สาม นั่นก็คือ พม่า และแหล่งใหญ่ที่ส่งไปคือเมือง มัณฑะเลย์ ย่างกุ้ง และพะอัน ซึ่งจักรยานทั้งหมดมาจากญี่ปุ่นที่ส่งผ่านเข้ามาทางประเทศไทย โดยแต่ละเดือนจะนำเข้ามาประมาณ 30-50 ตู้คอนเทนเนอร์ แต่ละตู้มีจักรยานประมาณ 500 คัน โดยจะมีจักรยานให้เลือกทุกประเภท เช่น จักรยานแม่บ้าน เสือหมอบ เสือภูเขา ฟิกซ์เกียร์ และจักรยานพับได้

 “ช่วงที่การค้าขายจักรยานคึกคักมากๆ คือ ก.พ.-เม.ย. และจะเริ่มเงียบช่วงหน้าฝน เพราะการขนส่งค่อนข้างลำบาก ก่อนหน้านี้จักรยานส่วนใหญ่หรือเกือบ 100% จะถูกส่งออกไปขายที่พม่า แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีคนไทยมาซื้อไปใช้หรือเอาไปขายต่อในตลาดในประเทศมากขึ้น”

ปภาวดี เล่าต่อว่า ธุรกิจจักรยานมือสองโตต่อเนื่องมาตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และเป็นการเติบโตสูงขึ้นเท่าตัว สำหรับยอดขายในประเทศ เดิมอยู่ที่ประมาณเดือนละ 1,000-2,000 คัน ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนล่าสุดมียอดขายเดือนละ 3,000-4,000 คัน ซึ่งทางคลังจะเป็นผู้ทำเรื่องเสียภาษีศุลกากรให้เรียบร้อย

ทั้งนี้ แม้ว่าตอนนี้คู่แข่งจะเยอะขึ้น กำไรน้อยลง แต่มีปัจจัยบวกมาเสริม คือ ขายจักรยานได้จำนวนมากขึ้น  และยังเชื่อว่าน่าจะยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ส่งผลให้วันนี้ “คลัง 9 แม่สอด” กลายเป็นจุดพักและแหล่งกระจายรถจักรยานมือสองจากญี่ปุ่นใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไปแล้ว

ด้าน กิตติ สุทธิสัมพันธ์ นายด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า ตอนนี้มีพ่อค้าจากไทย พม่า ปากีสถาน บังกลาเทศ มาเลือกซื้อจักรยานบริเวณคลังชายแดนแม่สอดไปจำหน่ายต่อ สำหรับส่วนของการนำเข้ามาขายในไทย จะต้องมาเสียภาษีที่ด่านแม่สอด มีจำนวนเฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นคัน สามารถจัดเก็บภาษีได้ประมาณเดือนละ2 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน กิตติพูดถึงแนวโน้มการส่งออกรถยนต์มือสองจากฝั่งไทยไปพม่า ว่า มีแนวโน้มลดลง หลังจากรัฐบาลพม่าเข้มงวดมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลพม่าลดภาษีและเพิ่มความสะดวกในการซื้อรถยนต์ใหม่ในประเทศ ทำให้ยอดขายรถยนต์มือสองบริเวณชายแดนไทย-พม่าลดลง

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี