‘เจ๊วัน บานาน่า’ ขอรวยด้วยกล้วยหอม

แนวโน้มการดูแลสุขภาพที่มาแรง โดยเฉพาะการเลือกบริโภคอาหาร ผัก และผลไม้ที่เป็นประโยชน์ ทำให้ “กล้วยหอม” กลายเป็นผลไม้ในช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่มียอดขายเติบโตสูง ปัจจุบันครองแชมป์สินค้าหมวดผลไม้ในห้างเทสโก้ โลตัส เป็นอันดับ 1 ด้วยอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากความต้องการในตลาดที่มีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของชาวสวนกล้วยหอมไทย

สยุมพร เณรเถื่อน หรือ “เจ๊วัน” ชาวสวน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของฟาร์ม“เจ๊วันกล้วยหอม” อีกหนี่งเกษตรกรที่เข้าร่วมในโครงการไดเร็ค ซอร์สซิง หรือการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกรไทย ของห้างค้าปลีกเทสโก้ โลตัสเล่าให้ฟังก่อนเข้าร่วมโครงการกับเทสโก้ฯ ว่าเป็นเกษตรกรปลูกสวนกล้วยหอมทองทั่วไป เริ่มมาตั้งแต่ปี 2535 มีพื้นที่เพาะปลูก 50 ไร่ จากนั้นเริ่มขยายพื้นที่ปลูกไปเรื่อยๆ ครั้งละ 100-200 ไร่/ปี ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกทั้งสิ้น 1,700 ไร่ ซึ่งอยู่ในรูปแบบการทำสัญญาเช่าที่ดินเพาะปลูกราย 3 ปี และหากรวมกับที่ดินที่มีอยู่อีก 500 ไร่ ทางสวนจะมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทั้งสิ้น 2,200 ไร่

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการสลับหน้าดินในการปลูกกล้วย เพื่อให้ได้ผลผลิตต่อเนื่องในการส่งขายให้กับห้างเทสโก้ฯ เป็นหลักมากกว่า 80% ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่มีแนวโน้มการบริโภคกล้วยหอมทองสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ทั่วไปเริ่มมีการวางขายปลีกกล้วยหอมทีละลูก ต่างจากในช่องทางตลาดสดผลไม้ทั่วไปที่ยังขายกล้วยหอมแบบยกหวีหรือเครือ

“ทางสวนได้เริ่มเข้าช่องทางขายในห้างเทสโก้ฯ โดยผ่านซัพพลายเออร์ตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งพบว่าได้ผลตอบรับดี จากการปลูกกล้วยหอมที่มีอัตราเติบโตในตลาดไม่ต่ำกว่า 50% ต่อเนื่องในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน หรือสารทจีนที่สินค้ากล้วยหอมโตถึง 200-300%” สยุมพร เล่า

จากนั้นในปี 2556 ทางสวนจึงได้เข้าร่วมกับโครงการดังกล่าวของห้างเทสโก้ฯ โดยตรง เพื่อต้องการขยายตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะการส่งออกกล้วยหอมไทยจากสวนเจ๊วันกล้วยหอม พร้อมกับได้ลูกชาย (เฉลิมชัย เณรเถื่อน) เข้ามาช่วยดูแลด้านการตลาด พร้อมสร้างแบรนด์กล้วยหอมของสวนขึ้นมาเป็นครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ วัน บานาน่า (One Banana) ซึ่งชื่อวันนอกจากจะหมายถึงตัวเองแล้ว ขณะเดียวกันวันในภาษาอังกฤษ ยังหมายถึงความเป็นที่หนึ่งอีกด้วย

สำหรับการร่วมโครงการดังกล่าว ยังทำให้สวนได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ ในการเพิ่มผลผลิตกล้วยหอมได้ตามมาตรฐานที่ห้างเทสโก้ฯ ต้องการได้โดยตรง ทั้งวิธีการปลูกแบบใหม่ที่ให้ผลผลิตเพิ่ม จากเดิมที่มีการเก็บกล้วยได้ 3 ปี 2 รอบการผลิต มาเป็นปีละ 1 รอบการผลิต รวมถึงยังทำให้สวนสามารถวางแผนการปลูกกล้วยหอมได้ล่วงหน้าตามความต้องการของคู่ค้า ซึ่งทำให้สวนมีรายได้คงที่ ขณะนี้มีรายได้หมุนเวียนประมาณ 1 ล้านบาท/ปี

นอกจากนี้ สวนยังได้ร่วมในโครงการนำร่องกับห้างเทสโก้ฯ ในการนำเทคโนโลยีทางการเกษตรมาพัฒนาผลผลิตกล้วยหอมทองจากไทย ให้ได้มาตรฐานการส่งออกภายใต้แบรนด์ “วัน บานาน่า” ในอนาคตอีกด้วย ที่ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งโรงบรรจุกล้วยหอม เพื่อให้ฟาร์มเจ๊วันกล้วยหอมมีความครบวงจรด้านการผลิตจากแหล่งเดียว ปัจจุบันมีแหล่งผลิตกล้วยหอมอยู่ในภาคกลาง อาทิ ทุ่งรังสิต พระนครศรีอยุธยา และเพชรบุรี

สยุมพร ปิดท้ายโดยวางเป้าหมายให้กล้วยหอม “วัน บานาน่า” เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดกล้วยหอมไทยภายใน 5 ปีนับจากนี้ จากแผนขยายตลาดส่งออกภายใต้แบรนด์ดังกล่าวด้วย