บพ.ยันโซล่าแอร์พร้อมบินปลายก.ค.
.โพสต์ทูเดย์
— กรมการบินพลเรือน มั่นใจ “โซล่าแอร์” พร้อมบิน กรุงเทพฯลำปาง และกรุงเทพฯน่าน ปลาย ก.ค.นี้ ด้านบางกอกแอร์เวย์สไม่สะเทือนเดินหน้าลุยต่อนายวุฒิชัย สิงหมณี อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) เปิดเผยว่า บริษัท โซล่า เอวีเอชั่น ผู้ให้บริการสายการบิน โซล่าแอร์ จะพร้อมให้บริการเส้นทางตรง กรุงเทพฯลำปาง และกรุงเทพฯน่าน ในช่วงปลายเดือน ก.ค. 2553 นี้ หลังจากมีผู้โดยสารที่ จ.ลำปาง เรียกร้องให้มีสายการบินที่บินตรงระหว่างกรุงเทพฯลำปาง เนื่องจากสายการบิน พีบี แอร์ ได้หยุดให้บริการมานาน
ก่อนหน้านี้ ทาง บพ.ได้ขอให้สายการบินบางกอกแอร์เวย์สบินแทน แต่บางกอกแอร์เวย์สจะแวะที่ จ.สุโขทัย โดยไม่บินตรงไปลำปาง ทำให้ผู้โดยสารใช้เวลาเดินทางระหว่างกรุงเทพฯสุโขทัยลำปาง 2.4 ชั่วโมง
ปัจจุบันมีเพียงสายการบินนกมินิ ที่ให้บริการเที่ยวบินน่านเชียงใหม่ เป็นเครื่องบินเซส น่า ขนาด 12 ที่นั่ง บินวันละ 2 เที่ยวบิน แต่เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก และบินในระยะสั้น ซึ่งผู้ใช้บริการโดยเฉพาะภาคเอกชนยังคงต้องการเครื่องบินใหญ่กว่า และให้บริการบินสายน่านกรุงเทพฯ เหมือนเดิม
สำหรับสายการบิน นครเชียงใหม่ แอร์ และสายการบินเรกาซี่ แอร์ ซึ่งขอไลเซ่นส์ในการบินโดยสายการบินนครเชียงใหม่ แอร์ จะมีการใช้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางการบิน ในเส้นทาง เชียงใหม่อุดรธานี ขอนแก่น และ พิษณุโลก ส่วนสายการบินเรกาซี่ แอร์ จะใช้ จ.นครราชสีมาเป็นศูนย์กลาง มีเส้นทางบินจากนครราชสีมา ไปยัง เชียงใหม่ ภูเก็ต และ พิษณุโลก
นายวุฒิชัย กล่าวว่า ในส่วนของการบริหาร 28 สนามบินของบ.พ.ทั่วประเทศนั้น อยู่ระหว่างการสรุปข้อมูลการศึกษา โดยจะนำเสนอแนวทางเลือกรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบหลายทางเลือกก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม. โดยเบื้องต้นจะจัดกลุ่มสนามบินที่มีกำไรและไม่มีกำไรให้คละอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เอกชนที่สนใจเข้ามาติดต่อและรับบริหารสนามบิน ซึ่งหากไม่มีเอกชนรายใดสนใจทางบ.พ.อาจมีการแปรรูปองค์กรเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารสนามบิน คาดว่าจะสามารถสรุปข้อมูลทั้งหมดได้ภายในเดือนมิ.ย.และเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)พิจารณาเพื่อเนอกระทรวงคมนาคมต่อไป
ด้านนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแนวคิดการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกรุงเทพฯลำปาง เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารมีจำนวนน้อย ไม่เกี่ยวกับเรื่องสิทธิทางการบินแต่อย่างใด ซึ่งปัจจุบันได้ให้บริการเส้นทางไปกลับ กรุงเทพฯสุโขทัยลำปาง ในอนาคตจะเปิดเส้นทางการบินตรงหรือไม่ต้องใช้ระยะเวลาการศึกษาเส้นทางดังกล่าวอย่างน้อย 1 ปี
สำหรับแผนงานของบริษัทนั้น ได้ใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์การตลาด รวมถึงจัดแคมเปญส่งเสริมการตลาดในประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ผู้โดยสารคนไทยเดินทางมาใช้บริการในช่วงครึ่งปีหลัง โดยล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา เลิฟ แอท เฟิร์ส ไฟลต์ เพื่อสร้างการรับรู้ใหม่ให้กับลูกค้าคนไทยถึงภาพลักษณ์บูติก แอร์ไลน์ ตั้งเป้าให้คนไทยมาใช้บริการเพิ่มขึ้นสัดส่วน 2025% จากปัจจุบัน 15% และต่างชาติ 85%
ด้านแคมเปญกระตุ้นการเดินทาง บริษัทได้ร่วมกับสมาคมท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ จัดแพ็กเกจทัวร์ตั๋วโดยสารพร้อมที่พักราคาพิเศษ รวมถึงจูงใจผู้โดยสารด้วยการลดราคาตั๋วโดยสารอีก 5% ทันทีที่จองตั๋วพร้อมของบริษัท โดยมีตั๋วโดยสารสายการบินอื่นมาแสดง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. 31ก.ค. นี้ คาดเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้ 510%
“
การชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดการเดินทางลดลง 2030% เพราะการท่องเที่ยวมีความอ่อนไหวต่อทุกสถานการณ์” นายพุฒิพงศ์กล่าวผลประกอบการไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 2,300 ล้านบาท มีกำไร 200300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ได้รับผลกระทบในช่วงไตรมาสที่ 2 ส่งผลให้บริษัทขาดทุนสะสม ติดต่อกัน 2 ปี ราว 600700 ล้านบาท ซึ่งอัตราที่นั่งไตรมาสที่แรกเฉลี่ย 60% โดยทั้งปีคาดว่าจะมีอัตราที่นั่งเฉลี่ย 70% เทียบกับปีที่ผ่าน 80% โดยทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้รวม 8,200 ล้านบาท ขนผู้โดยสาร 2.7 ล้านคน เทียบกับปีที่ผ่านมา รายได้ 7,000 ล้านบาท ขนผู้โดยสาร 2.5 ล้านคนและปีนี้ไม่มีแผนการเปิดเส้นทางการบินใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่จะเน้นการเพิ่มความถี่ในการให้บริการเส้นทางที่มีอยู่ รวมถึงใช้สนามบินสมุย ตราด สุโขทัย เป็นศูนย์กลางการบินในแต่ละภูมิภาคมากขึ้น


