ปักธง Lyyon น้ำดื่มไทยในกัมพูชา
เมื่อได้เข้าไปเริ่มต้นธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านจนเป็นที่ไว้วางใจแล้ว การขยายแตกสาขาไปทำธุรกิจอื่นๆ ในประเทศนั้นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะรู้จักช่องทาง กฎระเบียบขั้นตอนการทำงานเป็นอย่างดี
เมื่อได้เข้าไปเริ่มต้นธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านจนเป็นที่ไว้วางใจแล้ว การขยายแตกสาขาไปทำธุรกิจอื่นๆ ในประเทศนั้นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะรู้จักช่องทาง กฎระเบียบขั้นตอนการทำงานเป็นอย่างดี
สุภชัย วีระภุชงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยนครพัฒนา กล่าวว่า ตอนแรกบริษัทมีแผนจะผลิตน้ำดื่มในเวียดนาม แต่การแข่งขันในตลาดเวียดนามสูงมาก จึงเปลี่ยนมาทำที่กัมพูชาแทน เนื่องจากเป็นประเทศที่ได้เข้าไปทำธุรกิจยาสามัญประจำบ้านและธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว ทำให้มีความชำนาญมากกว่าเวียดนาม จึงตัดสินใจตั้งโรงงานในกรุงพนมเปญตั้งแต่ 9 ปีก่อน ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดแบรนด์ “Lyyon”
สินค้าที่ผลิตวางขายในตลาดเป็นน้ำขวดขนาด 1.5 ลิตร เป็นสินค้าขนาดครอบครัว จัดเป็นสินค้าประจำบ้านของคนกัมพูชา จำหน่ายในราคา 4.5 เหรียญสหรัฐต่อลัง 1 ลังมีจำนวน 12 ขวดใหญ่ แม้มีราคาสูงกว่าน้ำขวดทั่วไป 15% แต่ด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าทำให้ลูกค้าเลือกที่จะซื้อสินค้าน้ำดื่มของบริษัท ทำให้บริษัทถือครองส่วนแบ่งตลาดน้ำบรรจุขวดขนาด 1.5 ลิตรมากที่สุด
นอกจากนี้มีสินค้าขนาดอื่นๆ เช่น 300-500 ซีซี ด้วย แต่ไม่ได้ทำตลาดในกลุ่มนี้มากนัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีเจ้าตลาดครองอยู่แล้ว
สำหรับการผลิตน้ำดื่มจะใช้น้ำบาดาลมาผลิต เนื่องจากควบคุมคุณภาพได้ง่ายกว่าการใช้น้ำจากแม่น้ำมาผลิต ใช้ระบบการผลิตมาตรฐานจีเอ็มพี และใช้ขั้นตอนการตรวจสอบยาเข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำ ทำให้สินค้ามีคุณภาพสูง โรงงานยังผลิตขวดน้ำพลาสติกเอง เป่าขวดแล้วบรรจุน้ำเอง ไม่ซื้อขวดมาล้างแล้วเก็บไว้ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนการผลิตยา ทำให้ลูกค้าไว้วางใจที่จะซื้อไปเป็นสินค้าประจำบ้าน ให้เด็กและครอบครัวบริโภค
ระบบการขายสินค้าน้ำดื่มในกัมพูชานั้นคล้ายกับเมืองไทย มีระบบการขายส่งผ่านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แต่ละจังหวัดจะมียี่ปั๊วอยู่ประมาณ 2-3 ราย ส่วนการขายในพนมเปญบริษัทมีหน่วยส่งน้ำตามร้านโชห่วย และมีเครือข่ายด้านการขนส่งอยู่แล้ว
ตลาดน้ำขวดในกัมพูชาเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี เป็นตลาดเปิดเสรี การแข่งขันสูงมาก มีคู่แข่งในตลาดมากกว่า 30-40 ราย มีทั้งผู้ผลิตท้องถิ่นและผู้ผลิตจากต่างชาติเข้าไปลงทุน โดยพฤติกรรมการซื้อของชาวกัมพูชาขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้า
หากเป็นผู้มีฐานะดีก็พร้อมจะซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ หากกลุ่มรายได้ต่ำจะยังมองเรื่องราคามากกว่า ส่วนน้ำดื่มนำเข้าจากต่างประเทศก็เข้าไปวางขายจำนวนมากเหมือนกัน แต่ราคาแพงมาก เฉลี่ยขวดละ 1 เหรียญสหรัฐ จึงเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มมาก อีกทั้งคนกัมพูชาก็เริ่มมีการติดตั้งเครื่องกรองน้ำใช้ภายในบ้าน รวมถึงการมีน้ำดื่มถังขายเข้าบ้าน แต่บริษัทไม่ได้ผลิตขาย
ทั้งนี้ บริษัทยังไม่มีแผนขยายการผลิตน้ำดื่มในกัมพูชา แต่ในอีก 3 ปีข้างหน้า อาจจะเริ่มนำเข้าเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ เช่น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไปวางขายด้วย