มนตร์เสน่ห์ บ้านหอมเทียน ดึงลูกค้าทั่วประเทศ

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

“วิถีชุมชนของไทย” ผสมกับจุดเด่นของสินค้า คือ “เทียน” ที่มีนวัตกรรมการดีไซน์ จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศ ที่ทุกคนรู้จัก และอยากมาสัมผัสกับ “บ้านหอมเทียน” ร้านค้าแห่งนี้ ที่มีรูปแบบเทียนให้เลือกมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ

“รัชนิกร ฉิมมะ” ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ บ้านหอมเทียน เปิดเผยว่า ได้เริ่มสร้างบ้านหอมเทียนแห่งนี้ ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในปี 2547 โดยใช้เวลาก่อสร้างนานร่วม 2 ปี เพราะเริ่มก่อสร้างทีละน้อย และขยายมาเรื่อยๆ โดยเน้นการออกแบบร้านที่ใช้วัสดุมาจากธรรมชาติ และเป็นวัสดุที่ใช้แล้วนำมารีไซเคิลใหม่ และมาจาก อ.สวนผึ้ง ทำให้การออกแบบร้านมีเอกลักษณ์ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด

ในร้านที่เริ่มจากร้านเล็กๆ แห่งนี้ มีสินค้าหลักเป็นเทียน จุดเด่นของเทียนที่นี่คือ การมีเทียนสีต่างๆ รวมอยู่ในเทียนแท่งเดียว และทำได้สำเร็จเป็นรายแรกและรายเดียวในโลก รวมทั้งมีรูปแบบของเทียนหลากหลาย มีสีสันสดใส ทำให้ลูกค้าชื่นชอบ มาในร้านค้าแห่งนี้แล้วรู้สึกประทับใจ ส่งผลให้ตลาดตอบรับดีทั้งในประเทศ และลูกค้าต่างประเทศ

 

“การคิดค้นเทคนิคการทำเทียนสีทั้งหมด มาจากทดลองและการศึกษาทำเทียนอย่างจริงจังด้วยตัวเองมายาวนาน ทำให้มีความรู้และสามารถพัฒนาการผลิตแบบใหม่ได้ สามารถผสมสีได้หลากหลาย รวมทั้งทำให้ได้เทคนิคการผลิตแบบใหม่ ที่ไม่มีในโลกและการทำเทียนก็เริ่มจากการที่เราไม่มีความรู้มาก่อน แต่ใช้ความสนใจเป็นสิ่งจุดประกายเท่านั้น” รัชนิกร กล่าว

สำหรับการลงทุนสร้างร้านในช่วงแรกใช้เงินลงทุนในหลักแสนบาท โดยการเปิดร้านในช่วง 3 ปีแรกขาดทุนมาตลอด แต่ในช่วงแรกแม้ว่าจะไม่มีกำไรแต่ก็มีความเชื่อมั่นว่าการลงทุนในบ้านเกิด
จ.ราชบุรี และลงทุนใน อ.สวนผึ้ง ที่มีแหล่งสถานที่สวยงาม จะต้องมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากและร้านแห่งนี้จะต้องเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั้งบ้านหอมเทียนก็ผ่านทุกสถานการณ์วิกฤตของธุรกิจมาได้ เพราะยึดหลักที่ว่า อดทน เรียนรู้ และพร้อมเปลี่ยนแปลง

จากจุดเด่นที่มีเทียนสีมากที่สุดในประเทศ และหลากหลายรูปแบบ จึงได้เริ่มขยายร้าน บ้านหอมเทียน ให้มีขนาดใหญ่และดึงชุมชนรายรอบใน อ.สวนผึ้ง มาร่วมนำสินค้าไปวางจำหน่าย ทั้งสินค้าอาหาร ผลิตภัณฑ์ในชุมชน ผัก และผลไม้ ของที่ระลึกต่างๆ ส่งผลให้คนในชุมชนมีรายได้มากขึ้น โดยการนำสินค้ามาจำหน่ายนั้น จะเรียกเก็บค่าเช่า ก็ต่อเมื่อร้านค้า สามารถจำหน่ายสินค้าจนมีกำไรแล้วเท่านั้น

ทั้งนี้ จากการที่มีสินค้าชุมชน และวิถีชีวิต ใน อ.สวนผึ้งมาจำหน่าย จึงมีลูกค้าในพื้นที่ และลูกค้าในต่างจังหวัด รวมถึงลูกค้าใน กทม. สนใจเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมมากขึ้น ซึ่งบ้านหอมเทียนก็เน้นการปรับปรุงร้านและการตกแต่งใหม่เป็นประจำ ส่งผลให้ลูกค้าเมื่อเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมในแต่ละครั้ง จะได้เห็นบรรยากาศและร้านค้าที่มีการตกแต่งแบบใหม่ เพราะการใช้วัสดุธรรมชาติ จึงสามารถปรับเปลี่ยนใหม่ได้เสมอ

 

แผนงานต่อไป ก็จะปรับบ้านหอมเทียนให้กลายเป็นเหมือน “คุณหมอ” ทำหน้าที่ผลิตเทียนตามแบบที่ลูกค้าต้องการทั้งให้แก่ลูกค้าที่ต้องการเทียนไว้จุดในบ้านเพื่อความสดชื่น ผ่อนคลาย หรือ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการนอนหลับได้ง่าย หรือ กลุ่มที่มีปัญหาเรื่อง กลิ่นในบ้านเทียนก็สามารถนำไปจุดเพื่อดูดความชื้นและทำให้มีกลิ่นหอม ให้บรรยากาศในบ้านที่ดีด้วย เช่น การจุดเทียนในห้องครัว จะช่วยกำจัดกลิ่นในห้องครัวได้ และในต่างประเทศนิยมมาก

รวมทั้งเทียนที่ใช้บำบัดโรค หรือกระตุ้นความรู้สึกสดชื่น หรือลูกค้าที่ต้องการเทียนสำหรับใช้ในงานต่างๆ ก็สามารถมาสั่งผลิตได้ เช่น เทียนเพื่อการจัดงานแต่งงาน หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ เป็นต้น อีกทั้งได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเรียนรู้การทำเทียน และสามารถร่วมออกแบบสร้างสรรค์งานเทียนที่ต้องการได้ เพื่อให้บ้านหอมเทียน กลายเป็นครูที่ทำหน้าที่คอยแนะนำ ลูกค้าที่ต้องการออกแบบเทียนด้วยตัวเอง

อีกสิ่งที่ร้านให้ความสำคัญ คือ การดูแลพนักงานในร้าน ที่มีจำนวน 80 คน ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง เพราะต้องการให้คนในชุมชน ได้ทำงานอยู่กับครอบครัวและสามารถเติบโตไปพร้อมกับบ้านหอมเทียน โดยใช้หลักการบริหารที่ให้พนักงานทุกคนมีความสุขที่ได้ทำงานที่นี่ และลูกค้าก็จะได้รับความสุขจากการรับบริการ

“เทียนเป็นสิ่งวิเศษสำหรับเรา เทียน มีความทั้งความประณีต และความอ่อนหวานรวมอยู่ด้วยกัน” รัชนิกร กล่าว

ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา มียอดขายเติบโตทุกปี ประมาณ 20% มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นคนไทย 95% และต่างชาติ 5% ถือได้ว่าจากส่วนผสมที่ลงตัวของบ้านหอมเทียนแห่งนี้ จากการมีสินค้าเทียน และมีสินค้าวิถีชุมชน ทำให้บ้านหอมเทียนเป็นร้านค้าที่มีมนตร์เสน่ห์ให้ทุกคนเดินทางมาที่แห่งนี้ อย่างไม่ขาดสาย