ผุดโบ๊เบ๊รังสิตเจาะรายย่อย
กลุ่มทุนพรหมมหาราชพัฒนาที่ดิน สยายปีกโบ๊เบ๊ เจาะกำลังซื้อรายย่อยย่านรังสิต
กลุ่มทุนพรหมมหาราชพัฒนาที่ดิน สยายปีกโบ๊เบ๊ เจาะกำลังซื้อรายย่อยย่านรังสิต
นายวัลลภ กมลวิศิษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ถาวรสินพัฒนา ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ รังสิต เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเปิดศูนย์การค้าโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ รังสิต ในปี 2558 หลังจากบริษัท พรหมมหาราชพัฒนาที่ดิน บริษัทแม่ได้เข้าไปซื้อกิจการของศูนย์การค้าเมอร์รี่คิงส์ รังสิต เพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าว แม้ว่าการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในย่านรังสิตจะรุนแรงมากขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ เนื่องจากจะชูความแตกต่างของการเป็นศูนย์การค้าส่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร และเน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยนักศึกษา และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง
การดำเนินธุรกิจของศูนย์การค้าโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ รังสิต จะแบ่งพื้นที่ค้าปลีกเป็นขายขาด 30% และเช่า 70% โดยในส่วนของการปล่อยพื้นที่เช่าจะอยู่ที่ 1-3 ปี คิดราคาค่าเช่าอยู่ที่ 450-2,000 บาท/ตร.ม. การขายขาดแบบมีโฉนดจะมีราคาอยู่ที่ 1.8-4 แสนบาท/ตร.ม.
“ขณะนี้บริษัทสามารถขายพื้นที่เช่าและขายขาดได้แล้ว 70% ของพื้นที่ค้าปลีกรวมกว่า 1 หมื่น ตร.ม.”
พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับปรุงอาคารเสร็จสมบูรณ์แล้ว และเตรียมเปิดให้ผู้ค้าเข้ามาตกแต่งร้านในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เพื่อให้แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 2558 ซึ่งในช่วง 2-3 ปีแรกของการดำเนินธุรกิจจะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ของศูนย์การค้าให้เป็นที่รู้จัก โดยในปี 2558 คาดว่าจะใช้งบในการทำการตลาดและทำกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 15-20 ล้านบาท
นายวัลลภ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อวันไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน มีรายได้จากการขายขาดอยู่ที่ 700-800 ล้านบาท และมีรายได้จากค่าเช่า 5-6 ล้านบาท/เดือน โดยภายใน 6-7 ปีคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน
สำหรับภาพรวมของแผนการดำเนินธุรกิจในเครือช่วง 2-3 ปีนับจากนี้ จะยังเน้นการดำเนินธุรกิจที่เพิ่งเข้าไปซื้อกิจการมาปรับปรุงบริหารใน 4 ธุรกิจหลัก คือ ศูนย์การค้าเดอะ พาลาเดียม ช้อปปิ้ง (ประตูน้ำ) ศูนย์การค้าเมก้า พลาซ่า วังบูรพา โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ และศูนย์การค้าโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ รังสิต
ขณะที่ในปี 2558 ตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 2,300-2,400 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เป็นผลจากการเตรียมปรับราคาห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้น 10% และมีศูนย์การค้าใหม่เปิดให้บริการ เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 2,000-2,100 ล้านบาท
ปัจจุบันธุรกิจในเครือบริษัท พรหมมหาราชพัฒนาที่ดิน มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรม 70% คือโรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ และโรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ที่เหลืออีก 30% มาจากธุรกิจค้าปลีก อาทิ โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเดอะ พาลาเดียม ช้อปปิ้ง (ประตูน้ำ) ศูนย์การค้าเมก้า พลาซ่า วังบูรพา และศูนย์การค้าโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ รังสิต


