posttoday

"ลามูน"หัตถกรรมไทยหัวใจอินเตอร์

11 พฤศจิกายน 2557

แบรนด์ลามูน (Lamoon) อีกหนึ่งธุรกิจสินค้าไทยที่มองเห็นโอกาสจากการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

แบรนด์ลามูน (Lamoon) อีกหนึ่งธุรกิจสินค้าไทยที่มองเห็นโอกาสจากการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสิ่งทอมาต่อยอดเป็นชิ้นงานของใช้ของแต่งบ้านที่ทำจากผ้า โดยเฉพาะผ้าไหมไทย เพื่อทำตลาดต่างประเทศมานานกว่า 10 ปี

รักชัย เร่งสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลามูน อินเตอร์เนชั่นแนล เล่าว่า เริ่มต้นธุรกิจพร้อมกับคุณแม่ (ละมุน เร่งสมบูรณ์) ซึ่งมีแนวคิดต้องการพัฒนางานหัตถกรรมไทย (แฮนด์คราฟต์) โดยเฉพาะกลุ่มผ้าไทยจากผู้ผลิตสิ่งทอท้องถิ่นให้มีโอกาสทำตลาดในช่องทางใหม่ๆ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ จากการนำระบบเข้ามาบริหารจัดการกระบวนการผลิตและการทำตลาดมาใช้ร่วมกับชุมชน

สำหรับแบรนด์ลามูนในปัจจุบัน ทำตลาดหลักในกลุ่มสินค้าของใช้ของแต่งบ้าน กลุ่มเคหะสิ่งทอ เช่น หมอนผ้าที่ทำจากผ้าไหมหรือผ้าไทย ผ้าม่าน ฯลฯ โดยวางตำแหน่งแบรนด์ระดับบนในการทำตลาด ด้วยถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ใช้ทักษะฝีมือสูง ภายใต้แนวคิดผลิตภัณฑ์ “โมเดิร์น ลิฟวิ่ง ลักซ์ชัวรี่” เพื่อให้สอดคล้องกับการทำตลาดในต่างประเทศเป็นหลัก คือ สหรัฐ 60% ญี่ปุ่น 20% และยุโรป 20%

ขณะที่ธุรกิจแบรนด์ลามูนในปัจจุบันจะดำเนินการในลักษณะโรงงานผู้ผลิตที่มีการออกแบบภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (โอดีเอ็ม) โดยมีโรงงานส่วนหนึ่งอยู่ใน จ.สกลนคร ซึ่งใช้แรงงานที่มีฝีมือจากกลุ่มครัวเรือนชุมชนท้องถิ่นดังกล่าว และโรงงานอีกส่วนหนึ่งจะอยู่ที่กรุงเทพฯ ที่จะเป็นทั้งฝ่ายขายและการทำตลาด พร้อมส่งสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ 20-50 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน

นอกเหนือจากการนำระบบเข้ามาบริหารจัดการธุรกิจการผลิตสินค้าท้องถิ่นแล้ว รักชัย ยังบอกอีกว่ากลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้สินค้าหัตถกรรมไทยมีโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ จากการเข้าไปสำรวจตลาดว่าลูกค้าในแต่ละประเทศมีความสามารถในการซื้อราคาขายปลีกได้เท่าไร จากนั้นก็จะตั้งราคาไว้สูงสุดที่ลูกค้าสามารถซื้อได้ เพื่อให้สอดคล้องกับตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ลามูนดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

ปัจจุบันสินค้าแบรนด์ลามูน เน้นทำตลาดหลักในช่องทางขายปลีกในต่างประเทศ พร้อมยึดแนวคิดการทำตลาดหลักไว้อย่างเหนียวแน่น คือ การคงคุณภาพผลิตภัณฑ์และการออกแบบ พร้อมหันไปบริหารจัดการต้นทุนอื่นๆ เพื่อประคองกิจการให้สามารถอยู่รอดได้ในทุกช่วงสถานการณ์

“ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมาบริษัทก็ได้รับผลกระทบ แต่เราได้ตีกรรเชียงประคองกิจการไปเรื่อยๆ เพื่อให้ธุรกิจยังมีตัวตนในตลาด เพราะสุดท้ายแล้วตลาดก็จะกลับมาหาเราเองจากคุณภาพสินค้าที่รักษาไว้แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นก็ตาม” รักชัย กล่าว

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2558 นี้ บริษัทเตรียมขยายการทำตลาดรูปแบบใหม่ ด้วยการนำแบรนด์ลามูนเข้าร่วมพัฒนาสินค้าในอุตสาหกรรมกลุ่มแฟชั่นและของใช้ของแต่งบ้าน ร่วมกับดีไซเนอร์ชื่อดังในสหรัฐที่ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาราว 34 แบรนด์ คาดได้ข้อสรุปในปลายปีนี้

จากแนวทางดังกล่าว แบรนด์ลามูน คาดว่าในปีหน้าจะมีอัตราการเติบโตรายได้จากการข้ามไลน์ธุรกิจในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นราว 40% และผลักดันให้บริษัทมีรายได้รวมเติบโต 20% จากในปี 2557 นี้ บริษัทมีอัตราเติบโตรายได้ 50% จากปัจจัยเศรษฐกิจในตลาดหลายประเทศเริ่มมีกำลังซื้อฟื้นคืนกลับมา โดยเฉพาะสหรัฐ

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท