posttoday

"ว่องไววิทย์" เปิดหน้าดินลุยอสังหาฯโซนตะวันออก

06 พฤศจิกายน 2557

กว่า 50 ปีมาแล้วที่กลุ่มว่องไววิทย์ได้ดำเนินอุตสาหกรรมเหล็กและเครื่องกลที่สามารถสร้างรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาท

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

กว่า 50 ปีมาแล้วที่กลุ่มว่องไววิทย์ได้ดำเนินอุตสาหกรรมเหล็กและเครื่องกลที่สามารถสร้างรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาท มาจนถึงวันนี้ได้พกความมั่นใจมาเต็มสูบ พร้อมเดินหน้าลุยโครงการอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ เนื่องจากมีแลนด์แบงก์จำนวนมากในย่านสมุทรปราการ แถมวันนี้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเดินหน้าชัดเจน รวมไปถึงสายสีเหลืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ จะเป็นตัวพลิกโฉมการพัฒนาย่านสมุทรปราการ ขณะที่คอนโดมิเนียมในเมืองนับวันจะมีราคาแพงและจับต้องได้ยาก

เฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ส์ บริษัทในเครือว่องไววิทย์ อุตสาหกรรมจักรกล ผู้ดำเนินอุตสาหกรรมเหล็กและเครื่องกล กล่าวว่า นับจากนี้ไปบริษัทมีแผนจะรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น หลังจากที่เคยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “อีสต์วูด พาร์ค” ในย่านอ่อนนุชมาตั้งแต่ปี 2540 และวิลล่า ศรีนครินทร์ พัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวตั้งแต่ปี 2548

หลังจากที่รัฐบาลประกาศขยายการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ประกอบกับบริษัทมีที่ดินอยู่ย่านสมุทรปราการจำนวนมาก และมองเห็นโอกาสว่าความต้องการที่อยู่ใกล้กับระบบรถไฟฟ้ามีอยู่มาก จึงได้นำที่ดินจำนวน 2 แปลง ซึ่งติดสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาพัฒนาโครงการ แปลงแรกเป็นที่ดินโรงงานเครื่องกลของครอบครัว ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสำโรง เนื้อที่ 8.5 ไร่ มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ เมโทรโพลิส” สูง 30 ชั้น 1 อาคาร และสูง 35 ชั้น อีก 3 อาคาร ขนาดห้องชุด 2855 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านบาทขึ้นไป หรือเริ่มต้นที่ 7 หมื่นบาท/ตารางเมตร จำนวน 1,600 ยูนิต โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 4 เฟส เฟสละ 400 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดการขายในต้นปี 2558 ด้านการก่อสร้างจะเริ่มต้นในกลางปีหน้า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ

“เราเห็นโอกาสจากการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ที่เมื่อขยายไปถึงบริเวณใดที่อยู่อาศัยใกล้กับรถไฟฟ้านั้นก็มีความต้องการสูงมาก ผู้ประกอบการรายใดทำก็ขายได้หมด ตลาดคอนโดระดับราคาเฉลี่ยกว่า 2 ล้านบาท/ยูนิต จึงยังไม่ล้นตลาด เราจึงได้ย้ายโรงงานที่เป็นอุตสาหกรรมเครื่องกลไปอยู่ย่านบางนาตราด กม.20 แทน เพราะทางครอบครัวยังมีที่ดินสะสมอยู่อีกหลายแปลง” เฉลิมชัย กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะนำที่ดินอีก 1 แปลง ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสมุทรปราการ เนื้อที่ 16 ไร่ ในเบื้องต้นจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความต้องการที่ชัดเจน และคงต้องรอดูผลจากการเปิดขายโครงการเดอะ เมโทรโพลิส โครงการแรกก่อน หากได้รับการตอบรับที่ดีจะพัฒนาต่อเนื่องทันที

เฉลิมชัย ย้ำว่า ในอนาคตเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี จะทำให้เศรษฐกิจและภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวมากขึ้นอีกครั้ง และการที่บริษัทมีที่ดินใกล้สถานีรถไฟฟ้าในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ถือเป็นจุดได้เปรียบที่ทำให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการนั้นต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น

“ที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาโครงการเอง โดยไม่ได้ร่วมทุนกับใคร และมองว่าที่ดินนับวันจะมีมูลค่ามากขึ้น ยิ่งรัฐบาลมีนโยบายเดินหน้ารถไฟฟ้า ส่วนต่อรถไฟฟ้า จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะนำที่ดินที่มีศักยภาพมาพัฒนา ซึ่งนโยบายของบริษัทจะเน้นพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่รีบเร่งเหมือนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะไม่มีภาระเรื่องต้นทุนที่ดิน” เฉลิมชัย กล่าว

สำหรับความคืบหน้าโครงการ “วิลล่า นครินทร์” ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเปิดขายเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นเฟสสุดท้าย จากพื้นที่ทั้งหมด 97 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยมีเหลือขายเพียง 50 ยูนิต และมีการปรับราคาขายขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีราคาขายอยู่ที่ 10100 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2558 และจะทำให้บริษัทมีรายได้รวมในปีนี้ 100 ล้านบาท

ถือเป็นการเปิดเกมลุยอสังหาริมทรัพย์ของเมโทรโพลิส ในจังหวะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวกำลังเดินหน้า คงต้องจับตาดูว่า อสังหาริมทรัพย์รายใหม่แต่หน้าเก่ารายนี้จะใช้ความได้เปรียบที่มีอยู่บรรลุเป้าหมายได้หรือไม่ ต้องติดตาม

ข่าวล่าสุด

อัปเดต! เลือกตั้งล่วงหน้าวิธีลงทะเบียน-ใช้สิทธิ์ 3 ช่องทาง