องค์กรยางค้านสกย.ซื้อปุ๋ยแจก
ผู้นำสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ยื่นหนังสือรมว.เกษตรค้าน สกย. ซื้อปุ๋ยเคมีแจกชาวสวน
ผู้นำสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ยื่นหนังสือรมว.เกษตรค้าน สกย. ซื้อปุ๋ยเคมีแจกชาวสวน
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานชุมนุมสหกรณ์เกษตรอุตสาหกรรมยางแห่งประเทศไทยจำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนยางต้องประสบเกี่ยวกับการเจอปุ๋ยที่ไม่ได้คุณภาพจากการที่มีการซื้อประมูลปุ๋ยมาจากส่วนกลางซึ่งมีมาอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรชาวสวนยางทั้งการได้รับธาตุอาหารไม่ครบตามสูตรรวมทั้งปัญหาการจับตัวกันเป็นก้อนแข็งของปุ๋ยและเกิดปัญหาความยุ่งยากต่อการใช้ของชาวสวนยาง แม้ที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนยางส่วนใหญ่ของประเทศจะไม่ยอมรับในรูปแบบวิธีการจัดซื้อดังกล่าวแต่คณะกรรมการ กสย.ยังคงดำเนินการต่อไปโดยไม่ปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อให้เกิดประโยชน์และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ราคายางตกต่ำ
ทั้งนี้ผู้นำสถาบันเกษตรกร 4 สถาบัน ซึ่งประกอบด้วย 1.สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย 2.ชุมนุมสหกรณ์เกษตรอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจำกัด 3.เครือข่ายชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย และสมาคมเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรยางพาราไทย ได้ร่วมประชุมหารือและลงนามร่วมกันและยื่นหนังสือถึงรวม.เกษตรและสหกรณ์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557 เพื่อพิจารณาทบทวนวิธีการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว คณะกรรมการ สกย.ได้เตรียมเสนอประธานบอร์ดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา) เพื่อจัดซื้อปุ๋ยเคมีประมาณ 6 หมื่นตัน เพื่อนำไปให้เกษตรกรที่ปลูกแทนตามพรบ.กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 ซึ่งหากดำเนินการดังกล่าวในรูปแบบเดิมอาจประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมเกิดปัญหาทุกปี
นายอุทัยกล่าวต่อว่า นายปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รวม.เกษตรฯ ควรพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ กลักการรูปแบบวิธีการดังกล่าวเพื่อประโยชน์สูงสุดของเกษตรกรชาวสวนยางในยุคสภาเศรษฐกิจเช่นนี้ด้วย
"ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่ไปจัดซื้อจัดจ้างมาให้ เรื่องการที่สกย.จะจัดซื้อปุ๋ยเคมีให้นั้นไม่เห็นด้วยมานาน ที่จริงตามมาตรา 8 ก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าจะจ่ายเป็นของหรือเงินก็ได้ ทำไมคณะกรรมการจึงจะมีมติซื้อให้เกษตรกรเพราะปัญหาที่ผ่านมา ปุ๋ยจับกันเป็นก้อนคุณภาพต่ำก็ไม่เห็นเคลียให้ชัดเจน ปล่อยปะละเลย แต่กลับจะมาจัดซื้อปุ๋ยให้ใหม่ด้วยวิธีการแบบเดิมอีกเกิดปัญหาซ้ำรอยและไร้ซึ่งการแก้ปัญหา เสียเงิน เสียทอง เกิดประโยชน์จริงกับคนบางกลุ่มก้อนที่ได้ประโยชน์กันเป็นทอด ๆ ไม่เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรชาวสวนยางอย่างแท้จริง ทำไมไม่จ่ายเงินให้เกษตรกรโดยตรงแล้วให้ไปจัดซื้อกันเองโดยสถาบันเกษตรกรก็ได้ ซึ่งอาจรวมตัวกันซื้อแม่ปุ๋ยมาแล้วผสมเองแจกจ่ายแบ่งกัน หรือซื้อปุ๋ยอินทรีย์มาใช้ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในภาวะยางราคาตกต่ำย่ำแย่ของเกษตรกรชาวสวนยางรวมทั้งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้สร้างองค์กรเกษตรกรชาวสวนยางให้เข้มแข็ง
ซึ่งหากรัฐบาลให้นำเงินไปจ่ายเกษตรกรโดยตรงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเงินก็จะสะพัดหมุนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน แล้วไม่ต้องกลัวคำครหาที่สะท้อนมาทุกครั้งที่สกย.ซื้อปุ๋ยให้เกษตรกรบางคนอยากจะประหยัดก็ทำปุ๋ยหมักใช้เองเป็นการลดต้นทุนอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งรูปแบบวิธีการนี้หากเอาจริงเอาจังจะช่วยสกัดกั้นกลุ่มก้อนผู้ได้รับผลประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างและปราบปรามการทุจริตอยู่ ซึ่งผมว่าบอร์ด สกย.ไม่ควรเสี่ยงแม้แต่ยาปราบวัชพืชก็ให้เขาไปจัดซื้อเอง ใครมาต่อว่าก็ไม่ได้นี่ยังไม่ทันได้ซื้อเลยตัวแทน 4 สถาบันก็ออกมาคัดค้านแล้ว"นายอุทัยกล่าว
สำหรับการจัดซื้อปุ๋ยดังกล่าว เป็นตาม พรบ.กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางมาตรา 8 วรรคสองที่ว่า "เพื่อประโยชน์ในการปลูกทดแทนโดยจ่ายให้แก่เจ้าของสวน พันธุ์พืช ปุ๋ย เครื่องมือ เครื่องใช้ จัดบริการอย่างอื่นช่วยเหลือหรือจ่ายเป็นเงินให้ก็ได้ ทั้งนี้จะจัดให้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้


