posttoday

มือถือเปื้อนเลือด(ตอนจบ)

21 สิงหาคม 2557

มือถือเปื้อนเลือด (ตอนจบ)แร่โคลแทนมีสารทนความร้อน “แทนทาลัม” ที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือนั้น เป็นแร่ที่พบมากในประเทศคองโก ได้กลายเป็นวัตถุดิบจำเป็นที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เพลย์สเตชั่น แท็บเล็ต ฯลฯ โคลแทนจึงกลายเป็นทองคำสีดำ Black Gold และในขณะเดียวกันการเกิดสงครามคองโกครั้งที่ 2 ทำให้แร่สีดำชนิดนี้กลายเป็นแร่สีเลือด Blood Coltan เพราะการลักลอบทำเหมืองและส่งออกโคลแทนกลายเป็นแหล่งหารายได้ที่เติมเชื้อไฟให้กับ African World War ในทั้ง 8 ประเทศที่ติดหล่มสงครามและกองกำลังติดอาวุธกว่า 20 กลุ่ม หลายกลุ่มหาผลประโยชน์จากพื้นที่คองโกที่ประเมินว่ามีแร่โคลแทนมากถึง 80% จากทั่วโลก

มือถือเปื้อนเลือด (ตอนจบ)แร่โคลแทนมีสารทนความร้อน “แทนทาลัม” ที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือนั้น เป็นแร่ที่พบมากในประเทศคองโก ได้กลายเป็นวัตถุดิบจำเป็นที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เพลย์สเตชั่น แท็บเล็ต ฯลฯ โคลแทนจึงกลายเป็นทองคำสีดำ Black Gold และในขณะเดียวกันการเกิดสงครามคองโกครั้งที่ 2 ทำให้แร่สีดำชนิดนี้กลายเป็นแร่สีเลือด Blood Coltan เพราะการลักลอบทำเหมืองและส่งออกโคลแทนกลายเป็นแหล่งหารายได้ที่เติมเชื้อไฟให้กับ African World War ในทั้ง 8 ประเทศที่ติดหล่มสงครามและกองกำลังติดอาวุธกว่า 20 กลุ่ม หลายกลุ่มหาผลประโยชน์จากพื้นที่คองโกที่ประเมินว่ามีแร่โคลแทนมากถึง 80% จากทั่วโลก

กองกำลังประชาธิปไตยกลุ่มปลดปล่อยรวันดา หรือ FDLR ที่มีชาวฮูตูเป็นแกนนำ เป็นตัวอย่างที่เห็นชัดของการทำเหมืองแร่ในคองโกอย่างผิดกฎหมาย แม้จะต้องเสี่ยงจากการถูกปราบปรามจากรัฐบาลคองโก แต่ FDLR และอีกหลายกลุ่มก็เห็นว่ามันเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าอยู่ดี เพราะแทนทาลัมเพียง 1 ปอนด์ทำเงินร่วมหมื่นบาท และแทนทาลัม 1 ปอนด์ เป็นได้ทั้งตัวเก็บประจุในโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ และแปลงเป็น AK47 พร้อมกระสุนให้กับกองกำลังติดอาวุธ มิหนำซ้ำในกระบวนการร่อนแร่หาโคลแทน แรงงานที่ถูกบังคับให้ทำเยี่ยงทาสก็คือเด็กๆ คองโก ซึ่งองค์การสหประชาชาติรายงานว่า ในบางพื้นที่ของคองโกในเด็ก 100 คน จะมี 30 คน ที่ต้องใช้เวลาทั้งวันไปกับการแยกโคลแทนออกจากเศษหินอื่นๆ เงินค่าจ้างไม่ถึง 35 บาทต่อการหาโคลแทนให้ได้ 1 ปอนด์

แม้ว่าบริษัทมือถือระดับโลก เช่น Nokia, Ericsson, Motorola, Acer จะออกมาปฏิเสธว่าแร่โคลแทนที่ใช้ในการผลิตของตนไม่ได้มาจากคองโก แต่มีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้หามาให้ ซึ่งการตรวจสอบเส้นทางของโคลแทนนั้นไม่สามารถบอกที่มาได้โดยตรง เพราะมีการลักลอบเอาออกนอกคองโกเข้าสู่ตลาดมืด และขายทอดต่อไปเรื่อยๆ อีกอย่างน้อย 10 ทอด กว่าจะไปถึงผู้จัดหารายใหญ่ที่บริษัทบิ๊กๆ เลือกเป็นคู่ค้า ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้วัตถุดิบมารองรับความต้องการการซื้อมือถือในตลาดโลก นอกจากจะมีส่วนสร้างประวัติศาสตร์เลือดให้กับแอฟริกาแล้ว ยังส่งผลร้ายต่อสัตว์ป่าด้วย เพราะในพื้นที่ที่ขุดหาโคลแทน มันคือบ้านของกอริลล่าภูเขาที่เหลืออยู่บนโลกนี้ไม่กี่ร้อยตัว สัตว์ร่วมวงศ์กับมนุษย์ที่แสนจะขี้อาย สุภาพ ไม่เพียงถูกพวกทำเหมืองคุกคามถิ่นที่อยู่เท่านั้น แต่ยังล่าเพื่อเอาหัวและอาจชำแหละนำเนื้อมากินด้วย

พิษภัยของการเพิ่มจำนวนมือถือได้คุกคามชีวิตและทรัพยากรชาวแอฟริกันมานานจวบจนปัจจุบัน แต่อัตราการใช้มือถือก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัวตามกระแสความต้องการโทรศัพท์เครื่องใหม่ของคนทันสมัยในยุคไอที ประมาณการว่าจำนวนคนบริสุทธิ์ที่ล้มตายลงในสงครามกลางเมืองคองโก ตั้งแต่ปี 25412547 ซึ่งปี 2547 เป็นปียุติสงครามอย่างเป็นทางการ มีผู้คนล้มตายลงไปถึงราวๆ เดือนละ 4.5 หมื่นคน หรือปีละ 5.4 แสนคน ไม่รวมผู้หญิงอีกหลายหมื่นคนที่ถูกทารุณทางเพศ

ดังนั้น ในฐานะผู้ใช้มือถือในโลก จงอย่าให้ตัวเลขมือถือที่เพิ่มขึ้น 1,222,245,200,000 เครื่อง กับจำนวนคนบริสุทธิ์ 5.4 แสนคนที่ล้มตายลงไป มีอัตราการเพิ่มขึ้นให้เป็นตัวแปรตามกัน หากเราลดความอินเทรนด์ ลดการตามเทคโนโลยีให้ทันสมัยนิยมได้ เราจะช่วยลดจำนวนผู้คนล้มตายได้จำนวนมาก เราควรจะรู้จักเพียงพอต่อการใช้เทคโนโลยีเครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ การซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไอที หรือโทรศัพท์เครื่องใหม่เรื่อยๆ ก็เปรียบเหมือนการฆ่าสัตว์ในคองโก และเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกโดยไม่ได้ตั้งใจ

หากตระหนักรู้แล้ว ควรลดปริมาณการซื้อหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับโคลแทนและหันมาใช้หลักประหยัดและเพียงพอ และหากเป็นนักการตลาดควรใช้หลักการตลาดด้วยการพยายามรณรงค์ใช้วัสดุ “โคลแทน” รีไซเคิลให้มากขึ้น โดยสอดแทรกแนวคิดเกี่ยวกับจริยธรรมเพื่อลดการมีมือถือมากกว่า 1 เครื่อง หรือนำมือถือเก่ามาแลกเปลี่ยนเครื่องใหม่ เพื่อลดการขุดหาแร่โคลแทนในโลก จะเป็นวิธีการส่งเสริมการตลาดเพื่อสังคมที่ควรผลักดันให้เกิดขึ้นในวงการตลาดมือถือต่อไป n

จากหนังสือ “การตลาดไม่รู้จักพอ” (Ending Marketing) โดย กุลฉัตร ฉัตรกุล ณ อยุธยา จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!