ซื้อทาคุมิ กรุ๊ป เหมือนได้ครอบครอง 4 หุ้น

โดย...แน่งน้อย ชัยรัตนมโนกร

“ทาคูนิ กรุ๊ป” หรือ TAKUNI เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่ง เตรียมเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 100 ล้านหุ้น คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในไตรมาส 3 ปี 2557 ทาคูนิมีจุดเด่นตรงที่โครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มจะช่วยสร้างรายได้และกำไรเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และพร้อมจะก้าวกระโดดในบางปีได้ไม่ยากนัก

“ประเสริฐ ตรีวีรานุวัฒน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป ให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่มทาคูนิแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม ธุรกิจหลักคือทาคูนิ กรุ๊ป ผู้ประกอบกิจการค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทำธุรกิจลักษณะคล้ายกับ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เพียงแต่ย่อขนาดเล็กลงมา มียอดขายเพียง 6 หมื่นตัน/ปี ขณะที่ SGP ขายถึง 1.2 แสนตัน เนื่องจากเราไม่มีคลังเก็บก๊าซในต่างประเทศ ไม่มีเรือบรรทุกก๊าซและขายในประเทศเท่านั้น

นอกจากนั้น ยังมีบริษัทในเครือ 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท ทาคูนิ (ประเทศไทย) หรือ TT ทำธุรกิจให้บริการติดตั้งระบบท่อก๊าซอุตสาหกรรม เปรียบเสมือนบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) บริษัท ราชพฤกษ์วิศวกรรม (RE) ทำธุรกิจให้บริการตรวจสอบในลักษณะ NDT เหมือนบริษัท ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) และบริษัท จีแก๊ส โลจิสติกส์ (GG) ทำธุรกิจให้บริการขนส่งก๊าซธรรมชาติ LPG เหมือน บริษัท เกียรติธนาขนส่ง (KIAT)

รายได้หลักของกลุ่ม ประมาณ 90% มาจากทาคูนิ กรุ๊ป แต่ส่วนนี้คิดเป็นกำไรสุทธิประมาณ 40% เพราะธุรกิจค้าก๊าซมีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ต่ำเพียง 6% ขณะที่ราชพฤกษ์ฯ มาร์จิ้นสูงถึง 48% บริษัท ทาคูนิ (ประเทศไทย) ประมาณ 2030% และจีแก๊สฯ ให้มาร์จิ้น 20% ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มมีกำไรมาโดยตลอด และไม่เคยตกต่ำพร้อมๆ กัน แต่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งที่บริษัทย่อยที่มีมาร์จิ้นสูงมีงานเข้ามามาก ก็จะสร้างกำไรสูงขึ้นมากในปีนั้น ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจและทดสอบปั๊มน้ำมันที่มีมากถึง 2.8 หมื่นปั๊ม ฟู้ดคอร์ต เกิดขึ้นมากมาย กลุ่มเราก็มีการติดตั้งและทดสอบระบบก๊าซให้ด้วย

ประเสริฐ กล่าวถึงแนวโน้มการเติบโตในอนาคต ว่า ยังจะมีงานรองรับอยู่สูงมาก เช่น งานของราชพฤกษ์ฯ ก็จะมีเพิ่มขึ้นตามความเข้มของกฎหมาย ขณะนี้มีกฎหมายออกมาบังคับใช้แล้วที่รถน้ำมันทุกคันจะต้องผ่านการทดสอบแม้ว่าจะมีการผ่อนผันมาก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายจะต้องทำให้เสร็จในปีหน้า

“เรามีประสบการณ์ทดสอบปั๊ม NGV ของ ปตท.ทั่วประเทศมาแล้ว คิดดูแล้วกันว่า งานของเราจะมากขึ้นขนาดไหนเพียงแต่จะต้องเร่งทำงานแข่งขันกับเวลาเท่านั้น”

ประเสริฐยังกล่าวถึงโอกาสของการเพิ่มขนาดกิจการของกลุ่มทาคูนิฯ หลายเท่าตัว ภายหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ว่า เกิดขึ้นได้ เมื่อเห็นตัวอย่างจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจคล้ายๆ กันที่สามารถต่อยอดธุรกิจได้เร็วมาก เพราะเมื่อมีเงินทุนพร้อม และสามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก รวมถึงความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นแล้ว เชื่อว่าการจะหาพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจหรือร่วมทุนด้วยคงไม่ยากนัก

“เป้าหมายหนึ่งในการนำบริษัทเข้าตลาด เพื่อนำเงินไปลงทุนในสถานีบริการก๊าซ LPG ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘แชมป์เปี้ยนแก๊ส’ ขยายธุรกิจไปปลายน้ำ เข้าถึงผู้บริโภค ทำให้มาร์จิ้นของธุรกิจขายก๊าซเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 12% เมื่อขายปลีก คาดว่าจะมีสถานีบริการเป็นของตนเองอย่างน้อย 3 แห่ง ภายใน 1 ปี และเพิ่มขึ้นเป็น 10 แห่งภายใน 3 ปี”

นอกจากนั้น กลุ่มบริษัทมีเป้าหมายที่จะจัดสร้างโรงบรรจุ เพื่อทำการบรรจุก๊าซจำหน่ายให้แก่โรงงาน และหากคลังเก็บก๊าซที่ จ.ปทุมธานี สร้างเสร็จ จะสามารถบรรจุได้ 400 ตัน สามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

“ประเสริฐ” กล่าวทิ้งท้ายถึงกลยุทธ์ในการทำธุรกิจว่า บริษัททั้ง 4 แห่งสามารถเกื้อหนุนกันได้ เพื่อให้บริการครบวงจรแก่ลูกค้า ทั้งการจำหน่ายก๊าซ การให้บริการติดตั้งระบบก๊าซ การให้บริการตรวจสอบ ทดสอบและให้คำปรึกษาทางด้านวิศวกรรม ระบบก๊าซเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด เมื่องานออกมาดี ลูกค้าเก่าก็ยังคงใช้บริการต่อไป และมีการบอกปากต่อปากช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกัน