posttoday

เชียร์รับเหมาก่อสร้างดัง

06 พฤษภาคม 2557

โดย...ทีมข่าวหุ้นตลาดทุน

โดย...ทีมข่าวหุ้นตลาดทุน

ลุ้นระทึกหุ้นไทยสัปดาห์นี้ 3 งานช้างเรียกเงินต่างชาติ เสียงแตกทางการเมือง ซีแอลเอสเอ ชวนซื้อ 2 รับเหมาก่อสร้าง 2 อสังหาริมทรัพย์ และ PTTGC-SCC

สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์หนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับตลาดหุ้นไทย เพราะปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน เริ่มมีแสงปลายอุโมงค์เกิดขึ้น และในสัปดาห์นี้จะมีงานใหญ่เกิดขึ้นถึง 3 งานด้วยกัน จึงเป็นจังหวะวัดใจให้นักลงทุนตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเก็บไว้

วันที่ 6-7 พ.ค.นี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส (ประเทศไทย) จัดงานมินิไทยแลนด์ โฟกัส โดยเชิญผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศรวม 100 ราย พบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดกลาง และธนาคารทหารไทย (TMB) รวม 35 แห่ง พร้อมกับมีสัมมนาให้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจไทยแก่นักลงทุนต่างชาติ และในวันที่ 7-9 พ.ค.นี้ บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จัดงานฟอรัม อาเซียน มีบริษัทจดทะเบียนในอาเซียนเกือบ 60 บริษัทมาให้ข้อมูล ส่วนวันที่ 8-11 พ.ค. ตลท.และบริษัทในเครือร่วมจัดงานมหกรรมการเงิน เพื่อให้ข้อมูลอย่างครบครัน และสร้างโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ

10 บจ.โรดโชว์ในไทย

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ซีแอลเอสเอจัดงานใหญ่อย่างนี้ทุกปี ซึ่งปีนี้มี บจ.ไทยขนาดใหญ่ประมาณ 10 แห่ง ร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) บริษัท ปตท. (PTT) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บริษัท ซีพีออลล์ (CPALL) บริษัท ช.การช่าง (CK) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ธนาคารกรุงไทย (KTB) บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) และบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) โดยวันที่ 9 พ.ค. “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาพูดเรื่องการเมืองให้ฟังด้วย คาดว่างานนี้นักลงทุนต่างประเทศจะได้รับข้อมูลของประเทศไทยมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ “ปริญญ์” กล่าวว่า มีการคุยกันข้างหลังตลอดเวลา เชื่อว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาด้วยข้อมูลและหลักกฎหมายชัดเจน ก็จะมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน และอาจจะแสดงความไม่พอใจได้ แต่ไม่เชื่อว่าจะเกิดความรุนแรง ดังนั้นการเลือกตั้งก็มีโอกาสเกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนโดยตรงยังไม่รีบเข้ามา คงต้องรอเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพก่อน

แนะซื้อหุ้นได้ดีมีรัฐบาล

สำหรับนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้น หลังจากขายออกไปเกือบ 2 แสนล้านบาทเมื่อปีที่ผ่านมา แม้จะเริ่มกลับเข้ามาซื้อเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ก็เป็นเม็ดเงินที่น้อย ทำให้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทยน้อยกว่าตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์

ดังนั้น นักลงทุนควรมองข้ามช็อตและเลือกซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการมีรัฐบาล เช่น นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งหุ้น AMATA และบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ยังถูกอยู่ รวมถึงหุ้นรับเหมาก่อสร้าง อาทิ บริษัท ซิโนไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ที่มีเงินสดอยู่ในมือสูงมาก

และยังมีโอกาสได้งานใหม่ นอกจากนี้หุ้นที่เกี่ยวกับการส่งออกก็น่าสนใจ เช่น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ที่มีการบุกตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อย่างชัดเจน และธุรกิจปิโตรเคมียังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์

ทรีนีตี้เชียร์ค้าปลีกรับเหมาอสังหาฯ

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ศาลจะมีคำวินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงแรกก็จะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ เพื่อให้การเลือกตั้งเดินหน้าต่อไปได้ และเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งตัวแทนลงสมัครในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ซึ่งตลาดหุ้นจะตอบรับข่าวนี้ในทางบวก ส่งผลให้ดัชนีขึ้นไปทดสอบ 1,500 จุด ในเดือน ก.ค. และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศก็จะกลับมา เช่น ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากการลงทุนจะกลับมา

ครึ่งปีแรกเห็นแค่ 1,440

สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะเห็นแนวทางยุติในเดือน พ.ค.นี้ แต่จะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากมีการสะท้อนไปในผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแล้ว

“เชื่อว่าดัชนีครึ่งแรกปีนี้มีปัจจัยพื้นฐานอยู่ทีมข่าวหุ้นตลาดทุน

ลุ้นระทึกหุ้นไทยสัปดาห์นี้ 3 งานช้างเรียกเงินต่างชาติ เสียงแตกทางการเมือง ซีแอลเอสเอ ชวนซื้อ 2 รับเหมาก่อสร้าง 2 อสังหาริมทรัพย์ และ PTTGCSCC

สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์หนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับตลาดหุ้นไทย เพราะปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน เริ่มมีแสงปลายอุโมงค์เกิดขึ้น และในสัปดาห์นี้จะมีงานใหญ่เกิดขึ้นถึง 3 งานด้วยกัน จึงเป็นจังหวะวัดใจให้นักลงทุนตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเก็บไว้

วันที่ 67 พ.ค.นี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส (ประเทศไทย) จัดงานมินิไทยแลนด์ โฟกัส โดยเชิญผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศรวม 100 ราย พบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดกลาง และธนาคารทหารไทย (TMB) รวม 35 แห่ง พร้อมกับมีสัมมนาให้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจไทยแก่นักลงทุนต่างชาติ และในวันที่ 79 พ.ค.นี้ บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จัดงานฟอรัม อาเซียน มีบริษัทจดทะเบียนในอาเซียนเกือบ 60 บริษัทมาให้ข้อมูล ส่วนวันที่ 811 พ.ค. ตลท.และบริษัทในเครือร่วมจัดงานมหกรรมการเงิน เพื่อให้ข้อมูลอย่างครบครัน และสร้างโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ

10 บจ.โรดโชว์ในไทย

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ซีแอลเอสเอจัดงานใหญ่อย่างนี้ทุกปี ซึ่งปีนี้มี บจ.ไทยขนาดใหญ่ประมาณ 10 แห่ง ร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) บริษัท ปตท. (PTT) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บริษัท ซีพีออลล์ (CPALL) บริษัท ช.การช่าง (CK) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ธนาคารกรุงไทย (KTB) บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) และบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) โดยวันที่ 9 พ.ค. “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาพูดเรื่องการเมืองให้ฟังด้วย คาดว่างานนี้นักลงทุนต่างประเทศจะได้รับข้อมูลของประเทศไทยมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ “ปริญญ์” กล่าวว่า มีการคุยกันข้างหลังตลอดเวลา เชื่อว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาด้วยข้อมูลและหลักกฎหมายชัดเจน ก็จะมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน และอาจจะแสดงความไม่พอใจได้ แต่ไม่เชื่อว่าจะเกิดความรุนแรง ดังนั้นการเลือกตั้งก็มีโอกาสเกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนโดยตรงยังไม่รีบเข้ามา คงต้องรอเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพก่อน

แนะซื้อหุ้นได้ดีมีรัฐบาล

สำหรับนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้น หลังจากขายออกไปเกือบ 2 แสนล้านบาทเมื่อปีที่ผ่านมา แม้จะเริ่มกลับเข้ามาซื้อเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ก็เป็นเม็ดเงินที่น้อย ทำให้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทยน้อยกว่าตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์

ดังนั้น นักลงทุนควรมองข้ามช็อตและเลือกซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการมีรัฐบาล เช่น นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งหุ้น AMATA และบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ยังถูกอยู่ รวมถึงหุ้นรับเหมาก่อสร้าง อาทิ บริษัท ซิโนไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ที่มีเงินสดอยู่ในมือสูงมาก

และยังมีโอกาสได้งานใหม่ นอกจากนี้หุ้นที่เกี่ยวกับการส่งออกก็น่าสนใจ เช่น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ที่มีการบุกตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อย่างชัดเจน และธุรกิจปิโตรเคมียังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์

ทรีนีตี้เชียร์ค้าปลีกรับเหมาอสังหาฯ

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ศาลจะมีคำวินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงแรกก็จะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ เพื่อให้การเลือกตั้งเดินหน้าต่อไปได้ และเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งตัวแทนลงสมัครในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ซึ่งตลาดหุ้นจะตอบรับข่าวนี้ในทางบวก ส่งผลให้ดัชนีขึ้นไปทดสอบ 1,500 จุด ในเดือน ก.ค. และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศก็จะกลับมา เช่น ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากการลงทุนจะกลับมา

ครึ่งปีแรกเห็นแค่ 1,440

สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะเห็นแนวทางยุติในเดือน พ.ค.นี้ แต่จะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากมีการสะท้อนไปในผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแล้ว

“เชื่อว่าดัชนีครึ่งแรกปีนี้มีปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 1,440 จุด และครึ่งปีหลังสามารถไปได้ถึง 1,500 จุด เพราะมีประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนปีหน้าที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้มาช่วย” สุกิจ กล่าว n
ประมาณ 1,440 จุด และครึ่งปีหลังสามารถไปได้ถึง 1,500 จุด เพราะมีประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนปีหน้าที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้มาช่วย” สุกิจ กล่าว

ข่าวล่าสุด

สนง.สลากฯ ชูยุทธศาสตร์ปี 69 ลดสลากใบ เพิ่มสลากดิจิทัล–N3 คุมสมดุลตลาด