posttoday

“ทัศน์ วนากรกุล” เอ็มดีใหม่น้ำตาลครบุรี

05 มีนาคม 2557

“ทัศน์ วนากรกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำตาลครบุรี (KBS) วัย 59 ปี มีชีวิตที่หักเห จบเภสัชศาสตร์แต่โชคชะตาทำให้เขากลายมาเป็นผู้นำบริษัทน้ำตาลในปัจจุบัน

“ทัศน์ วนากรกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำตาลครบุรี (KBS) วัย 59 ปี มีชีวิตที่หักเห จบเภสัชศาสตร์แต่โชคชะตาทำให้เขากลายมาเป็นผู้นำบริษัทน้ำตาลในปัจจุบัน

เขาจบปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มงานแรกเป็นทีมขายยาและการตลาดของบริษัทยาต่างประเทศ 56 ปี จากนั้นเปลี่ยนงานมาอยู่บริษัท น้ำตาลมิตรผล

เมื่ออยู่มิตรผลเขาชอบที่จะคิดและพัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ออกมาทุกปี ได้ทำอะไรหลากหลาย เพราะอุตสาหกรรมน้ำตาลถือเป็นฐานการผลิตและผู้ส่งออกรายใหญ่ของประเทศและของโลก เติบโตตามลำดับจนตำแหน่งสุดท้าย คือ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและพัฒนาธุรกิจ และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพลังงาน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกนำสิ่งที่อยู่ระหว่างกระบวนการผลิตน้ำตาล เช่น กากน้ำตาล หรือโมลาส มาแปรรูปเพื่อนำมาผลิตเป็นธุรกิจพลังงานต่อ ไม่ว่าจะเป็นเอทานอล โรงไฟฟ้า

“ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาที่อยู่ในอุตสาหกรรมน้ำตาล ช่วงแรกธุรกิจน้ำตาลแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก ผู้ประกอบการน้ำตาลจะมีกำไรหรือขาดทุนจะขึ้นอยู่กับราคาน้ำตาลโลกที่ขึ้นกับวิกฤตและภาวะเศรษฐกิจ แต่หลังๆ พออุตสาหกรรมเริ่มนำเทคโนโลยีมาช่วยแตกไลน์ธุรกิจใหม่ขึ้นคือพลังงาน ก็ถือว่าช่วยสร้างมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมน้ำตาลได้มากขึ้น จึงเป็นเรื่องสนุกและท้าทาย” ทัศน์ กล่าว

หลังจากนั้นเขาได้ย้ายไปอยู่ในเครือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ที่รุกธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อไปลุยการขยายการลงทุนและบุกตลาดในประเทศกัมพูชาและลาว เป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่ย้ายกลับมาในอุตสาหกรรมน้ำตาลอีกครั้งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ KBS ตั้งแต่ปลายปี 2556

“ทัศน์” บอกว่า ตั้งแต่ที่เริ่มทำงานในอุตสาหกรรมน้ำตาล แม้ลักษณะงานคือจะเป็นเรื่องทางงานขายและการตลาด แต่ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ท้าทายการทำงานมาก เพราะโดยหลักทั่วไปธุรกิจน้ำตาลจะเติบโตภาพของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การมีปริมาณอ้อยที่นำมาหีบ ขณะที่ความเสี่ยงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ ราคาน้ำตาลที่มีความผันผวนทำให้มีผลต่อราคาวัตถุดิบ ทำให้สิ่งสำคัญของธุรกิจนี้ คือ จะทำอย่างไรให้มีต้นทุนการผลิตที่ลดลงและเกิดประสิทธิภาพ

ตามนโยบายของเขา KBS ในลำดับถัดไปต้องให้บริษัทมีสัดส่วนรายได้ที่มั่นคงจากธุรกิจพลังงาน พัฒนาตัวเองให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เบื้องต้นตั้งเป้าว่า ภายในปี 2559 สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบัน 20% และที่เหลือเป็นธุรกิจน้ำตาล แผนงานที่เริ่มทำภายใน 1 ปีนี้ เน้นกระตุ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร และพยายามปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามา พร้อมกับการเริ่มสร้างแบรนด์ให้กับ KBS มากขึ้น และสนับสนุนหรือมีความใกล้ชิดกับชาวไร่อ้อย เพื่อช่วยกันหาวิธีการปลูกที่ทำให้ผลผลิตอ้อยต่อไร่ให้ได้มากที่สุด พร้อมกับนำเทคโนโลยี วิธีการ การวิจัย และการพัฒนามาใช้

“ทัศน์” ยังชอบชีวิตการทำงานในอุตสาหกรรมน้ำตาล เพราะมีความท้าทายใหม่ที่รอผลจากกระบวนการผลิตจากอ้อยเป็นน้ำตาลออกมาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมายให้ทำ พร้อมกับงานอดิเรกที่รัก คือ ตีกอล์ฟสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อออกกำลังกายและพบเพื่อนฝูงในวงการธุรกิจ

ข่าวล่าสุด

สูตรไลฟ์ขายของจาก “จูน-กษมา–เชน ธนา”ทำยังไงให้ขายได้ ไม่ใช่แค่มีคนดู