3ค่ายเปิดศึกชิงแชร์เครื่องดื่ม
ศึกเครื่องดื่ม-ชาระอุ โออิชิโดดลุยน้ำสมุนไพร อิชิตัน-ทีพลัส ชูชาเขียวสุขภาพ
ศึกเครื่องดื่ม-ชาระอุ โออิชิโดดลุยน้ำสมุนไพร อิชิตัน-ทีพลัส ชูชาเขียวสุขภาพ
นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า หลังจากได้แยกกลุ่มธุรกิจนันกรีนที หรือเครื่องดื่มปราศจากชาเขียวออกมาบริหาร เพื่อให้สอดรับกับแผนการสร้างขาธุรกิจบริษัทจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ โอ เฮิร์บ ลงสู่ตลาดเครื่องดื่มสมุนไพร ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงประเดิม 2 รสชาติ คือ โสมผสมน้ำผึ้ง และรากบัวพุทราจีน ราคา 15 บาท จากปัจจุบันมีสินค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ อะมิโน พลัส บุกตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ และคอฟฟี่ โอ ทำตลาดกาแฟพร้อมดื่ม
นอกจากนี้ จะขยายตลาดน้ำผลไม้ด้วยการสร้างตลาดน้ำผลไม้ผสมโซดา ภายใต้แบรนด์ฟรุตซ่าด้วย ส่วนกลุ่มชาเขียว โออิชิมีเครื่องดื่มครอบคลุมทุกรสชาติ และได้ขยายสินค้าชิงส่วนแบ่งในตลาดเครื่องดื่มอื่นๆ อาทิ ชาเขียวผสมโซดา โออิชิ ชาคูลล์ซ่า ชาเขียวผสมน้ำผลไม้ โออิชิ ฟรุตโตะ ชาเขียวผสมนม โออิชิ มัทฉะ ลาเต้ และชาเขียวปราศจากน้ำตาล โออิชิ คาบูเซฉะ โดยคาดว่าในปีนี้ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มจะมีอัตราการเติบโตเพียง 10% จากมูลค่าตลาดรวม 1.65 หมื่นล้านบาท
ด้านนายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวอิชิตัน กล่าวว่า นโยบายของบริษัทจะเน้นสินค้าที่สร้างรายได้ คือ ชาเขียวอิชิตัน โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ชาเพื่อสุขภาพ อู่หลง และมัทฉะ และน้ำสมุนไพร เย็น เย็น ส่วนดับเบิ้ลดริงค์ได้เลิกทำตลาดไปแล้วก่อนหน้านี้ ปัจจุบันอิชิตันมีส่วนแบ่ง 35% และเย็น เย็น 7%
นายเซอิชิ อูเอโนะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี ผู้ผลิตชาอู่หลงพร้อมดื่มทีพลัส กล่าวว่า แผนปีนี้มุ่งสร้างแบรนด์ทีพลัส ในตลาดชาอู่หลงก่อน เพื่อรับกับการแข่งขันที่รุนแรงหลังคู่แข่งเข้ามาทำตลาด ส่วนการแตกไลน์เครื่องดื่มนันกรีนทีต้องขึ้นอยู่กับสภาพตลาด ซึ่งซันโทรี่ในญี่ปุ่นมีเครื่องดื่มหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาทิ ฟังก์ชันนัลดริงก์ กาแฟพร้อมดื่ม
สำหรับนโยบายการขับเคลื่อนธุรกิจ 3 ค่ายชาเขียว แม้ว่าจะมีทิศทางที่แตกต่างกัน แต่แคมเปญฤดูร้อนปีนี้ต้องจับตาทีเด็ดจากโออิชิในการรับมือกับอิชิตันที่ได้เปิดแคมเปญไปแล้ว ด้วยการแจกรถ “ปอร์เช่ รุ่น Boxster” 3 คัน ทุกเดือน และแจกทอง 1 ล้านบาท ทุกวัน จำนวน 40 ล้านบาท จากปัจจุบันทั้งสองแบรนด์มีส่วนแบ่งไล่เลี่ยกันมาก โดยโออิชิมีส่วนแบ่ง 35% อิชิตัน 34% ส่วนทีพลัส 2%


