รถยนต์มาเลย์มาเลเซีย
เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีโครงการรถยนต์แห่งชาติ และมีแบรนด์รถยนต์ของตัวเองอย่างโปรตอนและเปอโรดัว
เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีโครงการรถยนต์แห่งชาติ และมีแบรนด์รถยนต์ของตัวเองอย่างโปรตอนและเปอโรดัว
นี่สะท้อนถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ในฐานะกลจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยิ่งเมื่อรัฐบาลมาเลเซียประกาศ “วิสัยทัศน์ 2020”โดยกำหนดเป้าหมายในการเป็นประเทศพัฒนาแล้วให้ได้ในปี 2563ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มความสำคัญในฐานะตัวเร่งเครื่องภาคอุตสาหกรรมในประเทศ ตั้งแต่อุตสาหกรรมพื้นฐาน ขั้นกลาง และอุตสาหกรรมสนับสนุนต่างๆ
ล่าสุด มาเลเซียเตรียมผ่อนคลายกฎระเบียบในการออกใบอนุญาตสำหรับการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด รวมทั้งจะสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและเงินอุดหนุน 2,100 ล้านริงกิต (633 ล้านเหรียญสหรัฐ) แก่บริษัทต่างชาติที่เข้าไปตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานในมาเลเซีย เป็นการปรับทิศทางหันมาเลือกเฟ้นการลงทุนจากต่างชาติที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้า ต่างจากเดิมที่เน้นส่งเสริมแบรนด์ของตัวเอง และสกัดดาวรุ่งรถยนต์ขนาดเล็กจากต่างชาติ
นโยบายยานยนต์แห่งชาติของมาเลเซียที่ปรับเปลี่ยนล่าสุด มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ รวมถึงเน้นผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันเรื่องราคาได้ ขณะเดียวกันก็เท่ากับมาเลเซียกำลังจะแย่งเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์กับไทยที่กำลังติดหล่มการเมือง และทำให้นักลงทุนหนีไปประเทศอื่นๆ อย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม
มาเลเซียจึงเริ่มเปิดกว้างให้กับบริษัทที่ต้องการลงทุนและสามารถผลักดันให้มาเลเซียเป็นฮับผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ทั้งรถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล รถไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค เพราะการใช้ชิ้นส่วนในท้องถิ่นจะทำให้ต้นทุนถูกลง ส่งผลให้ราคารถยนต์ลดต่ำลง และเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุกราคารถยนต์ในประเทศลงราว 2030% ภายใน 5 ปีข้างหน้า
เพราะผู้บริโภคชาวมาเลเซียจำนวนไม่น้อยเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องราคามากขึ้น ประกอบกับต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ซื้อรถมองหาตัวเลือกที่มีราคาถูกลง และเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องตอบสนองต่อเทรนด์นี้ ด้วยการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีคุณภาพในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม
อีกเหตุผลที่มาเลเซียเน้นรถยนต์ประหยัดพลังงาน เพราะต้องการสร้างความแตกต่างจากไทย ที่บริษัทรถยนต์ต่างชาติมุ่งลงทุนผลิตรถกระบะและรถยนต์ประเภทอื่นๆ มากกว่า รวมทั้งมาเลเซียจะได้ประโยชน์ในแง่องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีด้วย
ปัจจุบัน มาเลเซียกำลังเจรจากับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติ 3 ราย เพื่อส่งเสริมการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งน่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการยกเว้นภาษีนำเข้าและอากรสรรพสามิตบางรายการ
ขณะที่แบรนด์ท้องถิ่นถูกมองว่าอาจได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ เพราะต้องแข่งขันกับแบรนด์รถยนต์จากต่างชาติมากขึ้น แต่ โทมัส ซุน นักวิเคราะห์ของเอเอ็มเอ็มบี โฮลดิ้งส์ มองบวกว่า แบรนด์โปรตอนไม่น่าจะได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัส กลับจะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีมากขึ้น


