Put the Right Job on the Right Man
อากาศเย็นสบายในช่วงเช้าของกรุงเทพฯ ต้อนรับเดือนสุดท้ายของปี เป็นสัญญาณเริ่มต้นของเทศกาลแห่งรอยยิ้มและความสุขที่ทุกคนรอคอย แม้สถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้จะทำให้หลายท่านยิ้มได้ไม่สุดก็ตาม ในช่วงเวลานี้หลายองค์กรเริ่มมองหาที่เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลังจากที่ทุกคนเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดปี วันนี้ผมมีข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับแนวคิดการบริหารงานและการบริหารคนยุคใหม่ของอาจารย์ณรงค์วิทย์ แสนทอง ที่ได้ไปอ่านเจอมาในเว็บไซต์ www.peoplevalue.co.th เลยถือโอกาสนำมาแชร์กัน เผื่อว่าปีหน้าเราเหนื่อยน้อยลงแต่ได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อากาศเย็นสบายในช่วงเช้าของกรุงเทพฯ ต้อนรับเดือนสุดท้ายของปี เป็นสัญญาณเริ่มต้นของเทศกาลแห่งรอยยิ้มและความสุขที่ทุกคนรอคอย แม้สถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้จะทำให้หลายท่านยิ้มได้ไม่สุดก็ตาม ในช่วงเวลานี้หลายองค์กรเริ่มมองหาที่เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลังจากที่ทุกคนเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดปี วันนี้ผมมีข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับแนวคิดการบริหารงานและการบริหารคนยุคใหม่ของอาจารย์ณรงค์วิทย์ แสนทอง ที่ได้ไปอ่านเจอมาในเว็บไซต์ www.peoplevalue.co.th เลยถือโอกาสนำมาแชร์กัน เผื่อว่าปีหน้าเราเหนื่อยน้อยลงแต่ได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในอดีตภารกิจหรืองานขององค์กรต่างๆ มักจะนิ่งไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะผู้ผลิตเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ลูกค้า ผู้ผลิตมักจะเป็นผู้กำหนดว่าจะผลิตอะไร เท่าไหร่ เมื่อไหร่ ดังนั้น กระบวนการทำงานจึงถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน รูปแบบการบริหารคนแบบเดิมจึงใช้แนวคิดที่ว่า “Put the right man on the right job” คือ หาคนที่เหมาะสมมาทำงานที่ได้กำหนดไว้อย่างถูกต้องแล้ว
แต่เมื่อโลกเปลี่ยนแปลง ธุรกิจเปลี่ยนไป การแข่งขันรุนแรงขึ้น สภาพแวดล้อมมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้องค์กรต้องปรับตัว ภารกิจขององค์กรถูกปรับบ่อยขึ้น ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารงานและตำแหน่งงานที่ต้องปรับบ่อยขึ้น คนทำงานในหลายองค์กรเริ่มเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ได้ชัดเจนมากขึ้นจนบางคนเริ่มบ่นอุบอิบว่า ผังเก่ายังไม่ทันเข้าที่ ผังใหม่ก็จะออกมาอีกแล้ว หลากหลายเหตุผลที่ทำให้องค์กรต้องมีการปรับผังการบริหารแบบใหม่ เช่น งานบางงาน Outsource ให้บริษัทภายนอกทำจะมีประสิทธิภาพมากกว่า งานบางงานต้องปรับเพราะกลยุทธ์ขององค์กรเปลี่ยน หรือผังการบริหารงานแบบเดิมทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง ฯลฯ
แต่ปัญหาสำคัญที่หลายองค์กรกำลังประสบอยู่นั่นก็คือ Put the wrong job on the right man หมายถึง การที่เรามีคนเก่ง มีความรู้ความสามารถสูง แต่เรากลับมอบหมายงานที่ไม่เหมาะสมกับฝีมือให้เขา มอบหมายงานที่เขาไม่ถนัดให้ทำ ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นมากกับหลายองค์กร สาเหตุหลักๆ มาจาก
คนทำงานคิดอย่างเดียวว่า ขอให้ได้งานไว้ก่อน ไม่สนใจว่างานนั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบหรือไม่ การหาคนให้เหมาะสมกับงานถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ยังใช้ได้อยู่ แต่ต้องไม่ลืมว่าคนหางานหลายคนมีความสามารถหลายด้าน เราอาจจะเห็นว่าเขามีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่เรากำลังหาอยู่ แต่เราอาจจะไม่รู้ว่าคนคนนั้นเขาอาจจะมีความสามารถในด้านอื่นๆ ที่โดดเด่นกว่าด้วย ปัญหาที่ติดตามมาคือ เราได้คนที่ทำงานนั้นๆ ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนคนนั้นจะรู้สึกเบื่องานเพราะไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบหรือถนัดมากที่สุด บางคนก็ทนทำไป แต่บางคนก็ทนไม่ไหวก็ลาออกไป
การอนุรักษ์งานเดิมให้คงอยู่ โดยไม่สนใจว่าใครจะมาดำรงตำแหน่ง ในองค์กรมักจะมีอัตราการเกิดตำแหน่งใหม่สูงกว่าอัตราการตาย (ยุบ) ของตำแหน่งงานเก่า ส่วนใหญ่มักพบว่าหัวหน้าหน่วยงานจะพยายามรักษาตำแหน่งงานที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด สุดท้ายตำแหน่งงานในองค์กรจึงเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ภาระงานโดยรวมขององค์กร (อาจ) ยังไม่แตกต่างจากเดิม
มีงานฝากอยู่เรื่อยๆ จนงานฝากมากกว่างานที่ควรจะทำในตำแหน่งงานนั้นๆ บางครั้งเราได้คนทำงานเก่งๆ มาดำรงตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะสมในช่วงแรก แต่พอเวลาผ่านไปนานๆ งานบางงานไม่มีคนทำ งานบางงานขาดผู้ดำรงตำแหน่งชั่วคราวถาวร ก็จะมีการโอนงาน ฝากงานให้คนอื่นทำ ทั้งประเภทฝากเผื่อเรียก ฝากประจำ และฝากลืม สุดท้ายคนที่เก่งในตำแหน่งงานหนึ่งจะต้องไปทำงานที่ตัวเองไม่เก่ง บางครั้งต้องใช้เวลาหมดไปกับงานที่ตัวเองไม่ถนัดมากกว่างานที่ตัวเองถนัด
การบริหารคนและบริหารงานในปัจจุบันจะใช้เพียงแนวคิดเดิมที่ว่า “Put the right man on the right job” เพียงอย่างเดียว คงจะไม่ได้แล้วนะครับ แต่ต้องบวกด้วยแนวคิดที่ว่า “Put the right job on the right man” ด้วย เพราะการที่เรามีคนเก่งอยู่ในองค์กรแล้วเราไม่ได้ใช้เขาอย่างเต็มที่หรือใช้งานเขาผิดที่ผิดทาง องค์กรอาจจะสูญเสียศักยภาพในการแข่งขันได้ แต่ถ้าเรามีคนเก่งอยู่แล้วและไม่อยากเสียเขาไปให้กับองค์กรอื่น ผมคิดว่าเราอาจจะต้องหันมาพิจารณาแนวคิดที่ว่าหางานให้เหมาะสมกับคนเก่งๆ ให้มากขึ้น “งานดีๆ สร้างได้ภายในวันเดียว แต่คนเก่งๆ ต้องใช้เวลาพัฒนาเป็นปี” แล้วกลับมาเจอเรื่องราวดีๆ อีกทีปีหน้า ขออวยพรให้ประเทศไทยพบกับรัฐบาลของประชาชนโดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อก้าวเข้ามาบริหารประเทศชาติให้มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น สงบสุข และเจริญก้าวหน้าวัฒนาถาวรยิ่งๆ ขึ้นไป ขอสวัสดีปีใหม่ 2557 ล่วงหน้าครับ


