'ดี ไอ ดีไซนส์' ควงซีพีลุยจีนหนุนออกแบบไทยโกอินเตอร์
หนึ่งในตลาดปราบเซียนของนักลงทุนไทย คงต้องยกให้ “เมืองมังกร” หรือตลาดจีน ที่แม้ว่าจะมีโอกาสทางการตลาดมากมาย
โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์
หนึ่งในตลาดปราบเซียนของนักลงทุนไทย คงต้องยกให้ “เมืองมังกร” หรือตลาดจีน ที่แม้ว่าจะมีโอกาสทางการตลาดมากมาย แต่อุปสรรคก็มหาศาลเช่นกัน แต่วันนี้หนึ่งในบริษัทออกแบบและตกแต่งภายในของไทย ภายใต้แบรนด์ “ดี ไอ ดีไซนส์” กำลังค่อยๆ สยายปีกในแดนมังกรด้วยฐานที่มั่นคงมากขึ้น
“ดี ไอ ดีไซนส์” อาจไม่ใช่บริษัทออกแบบยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่มีบริษัทแม่ที่แข็งแกร่ง เพราะอยู่ใต้ร่มเงาของดีทีจีโอ (DTGO) ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ “ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์” ทายาทคนสุดท้องในจำนวน 5 คนของเจ้าสัว “ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ จึงอาจกล่าวได้ว่ามีแต้มต่อที่ดีกว่าบริษัทออกแบบไทยรายอื่น
จากจุดเริ่มต้นจากการออกแบบ “ซีพี พาวิลเลี่ยน” ภัตตาคารของกลุ่มเจียไต๋ (ซีพี) ในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน จนสะดุดตานักลงทุนจีน และได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ออกแบบผังรวมโครงการต้นแบบเมืองใหม่ “Agricultural Science & Technology Ecological Park” ณ เมืองฉือซี หนิงป่อ เมืองใหม่ที่รัฐบาลจีนวางแนวคิดให้เป็นต้นแบบของเมืองเกษตรกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี พร้อมที่อยู่อาศัย บนพื้นที่กว่า 1 หมื่นไร่ โดยเอกชนชาวจีนได้รับสัมปทานเป็นผู้พัฒนาตั้งแต่ปี 2554 ภายในโครงการจะมีพื้นที่เกษตรกรรม มีศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโรงแรม
เศรษฐวัฒท์ ศรีวิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดี ไอ ดีไซนส์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า หากโครงการนี้สำเร็จ รัฐบาลจีนมีแนวคิดจะทำเมืองใหม่ลักษณะนี้อีก 100 เมือง เพื่อกระจายความเจริญไปสู่เมืองรองๆ รองรับคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่กำลังเรียนจบในแต่ละท้องถิ่น แต่หางานทำในถิ่นฐานที่เรียนไม่ได้ เพราะงานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่กับเมืองเศรษฐกิจหลักๆ
ทั้งนี้ ล่าสุดยังได้รับออกแบบตกแต่งห้องชุดตัวอย่าง 5 แบบ และสำนักงานขายของคอนโดมิเนียมฝั่งตะวันตกในโครงการเมืองใหม่ เบื้องต้นมีชื่อว่า “ลั่วหยาง อินเตอร์เนชั่นแนล พลาซ่า” ที่กลุ่มเจียไต๋ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลจีนในการลงทุนทั้งหมด
โครงการลั่วหยาง อินเตอร์เนชั่นแนล พลาซ่า มีด้วยกัน 3 โซน รวมพื้นที่ดินกว่า 2 แสน ตร.ม. โดยจะย้ายศูนย์ราชการจากฝั่งเมืองเก่าของลั่วหยางมาอยู่ที่ฝั่งเมืองใหม่ โซนตะวันตก ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 6 อาคาร รวม 2,000 ยูนิต โรงแรม และศูนย์วัฒนธรรมจีน ซึ่งปัจจุบันคอนโดมิเนียมก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างเปิดขาย
ขณะที่โซนตะวันออก ที่มีคอนโดมิเนียม 6 อาคาร รวม 2,000 ยูนิต ช็อปปิ้งมอลล์ และอาคารสำนักงาน อยู่ระหว่างออกแบบ เพื่อเป็นศูนย์กลางทางการเงิน และโชว์ความเป็นซีพีให้มากที่สุด เพราะปัจจุบันกลุ่มซีพีมีแนวคิดจะปรับแบรนด์เจียไต๋ในจีนให้เป็นซีพี โดยอยู่ระหว่างเตรียมเสนองาน ซึ่งกลุ่มดี ไอ ดีไซนส์ มีเป้าหมายจะบุกตลาดออกแบบในจีนอย่างจริงจัง และเร็วๆ นี้ เตรียมเปิดสาขาที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งตลาดจีนถือเป็นโอกาสที่บริษัทนักออกแบบไทยไม่ควรมองข้าม
นอกจากนี้ ยังวางแผนขยายตลาดออกแบบในภูมิภาคอาเซียนด้วย ตั้งเป้ามีพอร์ตรายได้จากงานต่างประเทศเพิ่มเป็น 20% ในปี 2558 จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 15% โดยเตรียมศึกษาตลาดในพม่าและเวียดนาม รองรับการเปิดเออีซี ที่บริษัทออกแบบไทยเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องแข่งกับบริษัทออกแบบยักษ์ใหญ่จากจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ที่จะมาไทยมากขึ้น
ด้าน รุ่งทิพย์ สาลยาโกวิท ผู้จัดการฝ่ายออกแบบและนักออกแบบตกแต่งภายในอาวุโส กลุ่มดี ไอ ดีไซนส์ กล่าวว่า นักออกแบบไทยต้องทำการบ้านให้มากขึ้น เพราะงานในต่างประเทศมีรายละเอียดที่แตกต่างจากในไทยมาก โดยเฉพาะความต้องการของคนในประเทศนั้นๆ ต้องเรียนรู้ ต้องทำวิจัย ซึ่งกว่าดี ไอ ดีไซนส์ จะเริ่มแข็งแรงในจีนได้ ต้องปรับตัวมาไม่น้อย
แม้กลุ่มดี ไอ ดีไซนส์ จะได้รับโอกาสที่ดีในตลาดจีน จากการมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มซีพี แต่สิ่งที่สำคัญกว่า นั่นคือ ผลงานต้องเป็นที่ยอมรับ ซึ่งมั่นใจว่าบริษัทออกแบบของไทยมีฝีมือไม่แพ้ยักษ์ใหญ่เอเชีย แต่อาจขาดโอกาสในการอวดผลงานในเวทีระดับสากล ขอเพียงบริษัทออกแบบไทยหาเวทีในต่างประเทศโชว์ผลงาน ก็มีโอกาสเปิดประตูสู่ตลาดโลกแล้ว
อย่างไรก็ตาม การลุยตลาดออกแบบในต่างประเทศควรไปกับพันธมิตร หรือเริ่มจากการออกบูธในต่างประเทศร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออก เป็นบันไดขั้นแรกของการโกอินเตอร์


