บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการบริษัท
ผมขอแบ่งแยกบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของกรรมการเป็น 3 องค์กร คือ ของบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด บริษัทจดทะเบียน (รวมถึงบริษัทย่อยของบริษัทจดทะเบียน) ให้ออกจากกัน เนื่องจากกฎหมายทั้ง 3 ฉบับกำหนดไว้แตกต่างกันเกี่ยวกับขอบเขตการจัดการ แต่ส่วนใหญ่การทำหน้าที่และบทบาทของกรรมการก็ย่อมมีความใกล้เคียงอยู่แล้ว แต่อาจมีความแตกต่างในรายละเอียด ซึ่งผมจะแยกพิจารณาโดยแบ่งบทบาทหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดพร้อมแผนภูมิของบริษัท 3 ประเภทที่กำหนดบทบาทหน้าที่กรรมการบริษัทจำกัด โดยนำหลักในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้ และจะนำแผนภูมิบทบาทหน้าที่ของกรรมการแต่ละประเภทของบริษัทและกฎหมายมาแยกให้ท่านผู้อ่านเป็นรายๆ ไปครับ
ผมขอแบ่งแยกบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของกรรมการเป็น 3 องค์กร คือ ของบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด บริษัทจดทะเบียน (รวมถึงบริษัทย่อยของบริษัทจดทะเบียน) ให้ออกจากกัน เนื่องจากกฎหมายทั้ง 3 ฉบับกำหนดไว้แตกต่างกันเกี่ยวกับขอบเขตการจัดการ แต่ส่วนใหญ่การทำหน้าที่และบทบาทของกรรมการก็ย่อมมีความใกล้เคียงอยู่แล้ว แต่อาจมีความแตกต่างในรายละเอียด ซึ่งผมจะแยกพิจารณาโดยแบ่งบทบาทหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดพร้อมแผนภูมิของบริษัท 3 ประเภทที่กำหนดบทบาทหน้าที่กรรมการบริษัทจำกัด โดยนำหลักในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้ และจะนำแผนภูมิบทบาทหน้าที่ของกรรมการแต่ละประเภทของบริษัทและกฎหมายมาแยกให้ท่านผู้อ่านเป็นรายๆ ไปครับ
บทบาทหน้าที่หลักของกรรมการบริษัทจำกัด
1.บทบาทหน้าที่ของกรรมการของบริษัทจำกัด คือ ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับ วัตถุประสงค์และอยู่ภายใต้การดูแลของที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (มาตรา 1144) และหากไม่ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรือข้อบังคับกรรมการก็ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว (มาตรา 76, 1176 ป.พ.พ.) ดังนั้น กรรมการบริษัทต้องศึกษาและมีความเข้าใจข้อบังคับ หนังสือ มติกรรมการ วัตถุประสงค์ของบริษัทที่ท่านเป็นกรรมการอยู่
2.มาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบริษัทจำกัด คือ ต้องใช้ความเอื้อเฟื้อสอดส่องอย่างบุคคลค้าขายผู้ประกอบธุรกิจควรระมัดระวัง (มาตรา 1168) โปรดสังเกตว่ามาตรฐานไม่ได้กำหนดไว้ในบริษัทมหาชน แต่ผมคิดว่าหลักเกณฑ์นี้ควรนำไปใช้สำหรับบริษัทมหาชนด้วย แต่มีการขยายความถึงบริษัทจดทะเบียนตามกฎหมายหลักทรัพย์
3.บทบาทหน้าที่อีกอันหนึ่ง คือ กรรมการเป็นเสมือนตัวแทนของบริษัท ดังนั้น การศึกษากฎหมายตัวแทนกำหนดให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของบริษัทไว้ เช่น กรรมการก็มีหน้าที่เช่นว่านั้น มาใช้บังคับถึงความเกี่ยวพันระหว่างกรรมการบริษัทและบุคคลภายนอก เช่น กรรมการจะเข้าทำนิติกรรมกับบริษัทในนามตนเองไม่ได้ การได้เงินหรือทรัพย์สินมาจากการปฏิบัติหน้าที่กรรมการก็ต้องส่งคืนบริษัท หากกรรมการประมาทเลินเล่อเพราะไม่ทำการเป็นกรรมการหรือนอกเหนืออำนาจ กรรมการก็ต้องรับผิดชอบส่วนตัว
4.หน้าที่ที่กฎหมายกำหนดโดยเฉพาะเป็นไปตามมาตรา 1168 เช่น
4.1 มีการให้เงินค่าหุ้นกันจริง
4.2 เก็บรักษาบรรดาสมุดบัญชีและเอกสารที่กฎหมายกำหนด
4.3 สรุปรายงานการประชุมใหญ่
4.4 จ่ายปันผล ดอกเบี้ย โดยถูกกฎหมาย เช่น จ่ายปันผลต้องมีกำไร คณะกรรมการหรือฝ่ายมติผู้ถือหุ้นและกันทุนสำรองตามกฎหมายก่อนจ่ายปันผล
4.5 บังคับการให้เป็นไปตามมติที่ประชุมใหญ่ เช่น การแต่งตั้งถอดถอนกรรมการ การจ่ายปันผล ฯลฯ
5.นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนดเรื่องหน้าที่ความซื่อสัตย์สุจริต คือ กรรมการห้ามประกอบการค้าขายอันมีสภาพอย่างเดียวกันและแข่งขันหรือเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดที่ค้าแข่ง กรณีนี้รวมถึงผู้แทนกรรมการด้วย เว้นแต่จะได้รับความยินยอมของที่ประชุมผู้ถือหุ้น (มาตรา 1168 ซึ่งต่างกับบริษัทมหาชน เพียงแต่แจ้งตามมาตรา 86 พ.ร.บ.บริษัทมหาชน)


