เซ็นเตอร์พ้อยท์ ปั้นธุรกิจออนไลน์รับยุค 3G
หากเอ่ยชื่อ “เซ็นเตอร์พ้อยท์” หลายคนยังคงติดภาพลานกิจกรรมชื่อดังใจกลางเมืองทั้งในย่านสยามสแควร์
โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์
หากเอ่ยชื่อ “เซ็นเตอร์พ้อยท์” หลายคนยังคงติดภาพลานกิจกรรมชื่อดังใจกลางเมืองทั้งในย่านสยามสแควร์ จนต่อมาย้ายมาอยู่บริเวณชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แต่นับจากนี้ชื่อของ “เซ็นเตอร์พ้อยท์” คงต้องย้ายสมรภูมิจากธุรกิจลานกิจกรรม สู่ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์เต็มรูปแบบ
ชยะบูรณ์ ชวนไชยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นเตอร์พ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนของกลุ่มเซ็นเตอร์พ้อยท์ฯ จะเน้นหนักธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นหลัก เพราะเป็นธุรกิจที่เติบโตมากโดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ ที่แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นอาจยังมองไม่เห็นเม็ดเงินรายได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็ไม่ควรมองข้าม
“พอเทคโนโลยีดีขึ้น มี 3G ที่ทำให้การเข้าถึงโลกออนไลน์บนมือถือดีขึ้น เร็วขึ้น ประกอบกับอุปกรณ์ในการเข้าถึงโลกออนไลน์ถูกลง ก็เป็นผลให้ธุรกิจบนโลกออนไลน์น่าจับตามากขึ้น ยิ่งถ้าใครจับได้ถูกทาง โอกาสในการสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจนี้ก็จะยิ่งสูงขึ้น”
ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของเซ็นเตอร์พ้อยท์ คือ ลานกิจกรรมวัยรุ่น แต่ปัจจุบันกลุ่มเซ็นเตอร์พ้อยท์ฯ ไม่ได้ทำลานกิจกรรมวัยรุ่นอีกแล้ว โดยหลังจากพัฒนาเซ็นเตอร์พ้อยท์ บริเวณชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้ประมาณ 3 ปี ล่าสุดได้ตัดสินใจคืนพื้นที่ให้กับเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว และยังไม่มีแผนที่จะทำลานกิจกรรมวัยรุ่นแบบเซ็นเตอร์พ้อยท์ต่อไป
“ธุรกิจลานกิจกรรมวัยรุ่น แม้จะสร้างชื่อเสียงดังเหมือนได้กล่องแต่ไม่ได้เงิน นับจากนี้ขอหันมาทำธุรกิจที่แม้จะไม่ดังไม่ได้กล่องแต่ได้เงิน”
นอกจากนี้ ธุรกิจออนไลน์ยังมีแนวโน้มที่น่าสนใจ โดยปีนี้คาดว่าจะมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากถึง 10 ล้านเครื่อง จากปีที่ผ่านมามีเพียง 4.5 ล้านเครื่อง ทำให้การทำธุรกิจบนสมาร์ทโฟน หรือบนโลกออนไลน์ มีความเป็นไปได้ในการทำเงิน
นั่นจึงเป็นที่มาของการเปิดตัว “จีไลฟ์ ออนไลน์ เรดิโอ” วิทยุออนไลน์แนวเพลงปาร์ตี้ 24 ชั่วโมง ทั้งการฟังผ่านเว็บไซต์และผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนบนไอโอเอส (iOS) และแอนดรอยด์ เพื่อเจาะกลุ่มคนฟังเพลงแนวปาร์ตี้ ตั้งเป้าสิ้นปีจะมีฐานผู้ฟังไม่ 1-1.5 หมื่นคน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 3 หมื่นคนใน 3-5 ปี โดยเน้นลูกค้าที่มีข้อจำกัดในการโฆษณาผ่านสื่อแมส เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มชูกำลัง โรงแรม ฯลฯ
ขณะที่กลุ่มลูกค้าโฆษณาในสถานีจีไลฟ์ ออนไลน์ เรดิโอ จะเน้นจับกลุ่มสินค้าที่มีข้อจำกัดในการโฆษณาทางสื่อที่เป็นแมส มีเดียประเภทอื่นๆ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เครื่องดื่มชูกำลัง โรงแรม สายการบิน แพ็คเกจทัวร์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค ก็ถือเป็นลูกค้าสำคัญเช่นกัน
ชยะบูรณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่มเซ็นเตอร์พ้อยท์ฯ มีประสบการณ์การทำวิทยุมาแล้วจากการทำรายการวิทยุ “เอสโอเอส เรดิโอ” (S.O.S RADIO) ที่ออกอากาศบริเวณย่านสยามสแควร์และสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นวิทยุแนวเพลงทั่วไปตามกระแสนิยม กลุ่มเป้าหมายจำกัดวงเฉพาะย่านสยามสแควร์ และผู้รู้จักเอสโอเอส เรดิโอที่ตามมาฟังต่อในสื่อออนไลน์โดยปัจจุบันเอสโอเอส เรดิโอ มีฐานผู้ฟังกว่า 1 หมื่นคน ซึ่งเพิ่งมาเติบโตแบบก้าวกระโดด 3-4 ปีที่ผ่านมา หลังจากเทคโนโลยีดีขึ้น เพราะหากย้อนกลับไป 56 ปีแรกที่เริ่มทำ ฐานผู้ฟังมีเพียง 3,000–5,000 คน และรายได้น้อยมาก แต่เวลานี้ ปรับตัวดีขึ้นมาก
สำหรับแผนการลงทุนในธุรกิจออนไลน์ กลุ่มเซ็นเตอร์พ้อยท์ฯ มีเป้าหมายจะขยายสถานีวิทยุออนไลน์ต่อเนื่องให้ได้ถึง 10 สถานีภายใน 5 ปี โดยแต่ละสถานีจะมีความแตกต่างในเรื่องรูปแบบรายการ และเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น สถานีสุขภาพ เป็นต้น โดยการมีสถานีวิทยุที่มากขึ้น จะช่วยทำให้อำนาจต่อรองในการทำธุรกิจสูงขึ้นด้วย
ทางด้านเป้าหมายของธุรกิจออนไลน์ ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจนี้เป็น 20% จากปัจจุบันสร้างรายได้เพียง 5% ของรายได้ทั้งหมด โดยรายได้หลักยังมาจากธุรกิจสตูดิโอ ที่รับจ้างผลิตภาพยนตร์ ภาพยนตร์โฆษณาและให้เช่าโรงถ่ายภาพยนตร์มากกว่า 60-70% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจรับจัดอีเวนต์ ให้เช่าอุปกรณ์แสง สี เสียง เอสโอเอส เรดิโอ และนิตยสารเท็นน์ แมกกาซีน ซึ่งเป็นนิตยสารดิจิตอลไลฟ์ สินค้าไอที แก็ดเจ็ท (Gadget) เน้นจับกลุ่มผู้ชาย และทัช แมกกาซีน นิตยสารแฟชั่น เน้นจับกลุ่มผู้หญิง
ธุรกิจสตูดิโอ ย่านลาซาล ยังคงทำรายได้หลัก แบ่งเป็น กลุ่มลูกค้าคนไทย 70% และลูกค้าต่างชาติ 30% “หากทีวีดิจิตอลเกิดอย่างเป็นทางการแล้ว มั่นใจว่าจะธุรกิจสตูดิโอย่านลาซาลจะขยายตัวมากขึ้นจากการรับจ้างผลิตรายการ”
การกระโดดเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบวิทยุออนไลน์อย่างจริงจังของกลุ่มเซ็นเตอร์พ้อยท์ฯ ชยะบูรณ์ ทิ้งท้ายว่า ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ธุรกิจออนไลน์แม้จะเติบโตในเชิงจำนวนผู้ใช้บริการ แต่ในเชิงรายได้อาจเรียกได้ว่ามองไม่เห็นอนาคต แต่ ณ วันนี้ ธุรกิจออนไลน์เป็นธุรกิจที่ลงทุนแล้วฟันธงได้ว่าคืนทุนภายใน 3-5 ปีแน่นอน


