เปิดรั้วโรงเรียนชายขอบพร้อมปั้นเด็กอาเซียน
กาญจนบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดชายแดนที่กำลังต้องเตรียมความพร้อมทุกด้าน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอนาคต
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
กาญจนบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดชายแดนที่กำลังต้องเตรียมความพร้อมทุกด้าน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอนาคต โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญก็คือ ความพร้อมด้านภาษาสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะภาษาประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ที่มีพรมแดนติดกัน
ณรินทร์ ชำนาญดู ผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ โรงเรียนมัธยมศึกษาประจำ จ.กาญจนบุรี ได้เล่าถึงแนวทางทั้งเชิงรับและเชิงรุกว่า ได้วางเป้าหมาย 3 ด้าน คือ ศักยภาพการศึกษาดี คุณภาพเด็กและบุคลากรเด่น และต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่พร้อม ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของนโยบายปรับเปลี่ยนวิถีการเรียนการสอนจากเดิมเน้นแค่การท่องจำ มาสอนให้เด็กรู้จักคิดและวิเคราะห์เป็น
กุญแจดอกแรกที่จะไขประตูสู่ความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้คือ การพัฒนาบุคลากรครูให้มีคุณภาพมากขึ้น โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์มีแผนพัฒนาศักยภาพครูเป็นรายบุคคล เช่น ส่งเสริมให้เรียนปริญญาโท หรือเรียนภาษาเพิ่มเติม โดยโรงเรียนจะให้ทุนการศึกษา ซึ่งถึงตอนนี้ครูของโรงเรียนจบปริญญา 100%
ผู้อำนวยการโรงเรียนมองว่า การที่ครูไทยเรียนจบปริญญาโท แถมได้ภาษาเพิ่มเติมช่วยแก้ปัญหาครูภาษาต่างชาติไม่เพียงพอ รวมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายจ้างครูภาษาต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษา นอกจากนี้โรงเรียนได้เพิ่มเงินพิเศษค่าภาษาและวุฒิให้กับครูไทยเหล่านี้ เพื่อจูงใจให้ตื่นตัวที่จะพัฒนาตัวเอง
“ผมมองว่าการลงทุนเรื่องบุคลากรครูเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาและยกระดับการศึกษาของไทยให้ดีขึ้น เพราะจุดเริ่มต้นในการปลูกฝังความคิดให้กับเด็ก ส่วนหนึ่งก็มาจากครูทั้งนั้น ดังนั้นจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด”
กุญแจดอกต่อมาคือ การยกระดับทักษะชีวิตของเด็กให้รู้จักยอมรับความแตกต่างด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรม เนื่องจากในการรวมอาเซียนเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น การยอมรับความต่างเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องปลูกฝังให้เด็กรู้และเข้าใจ ด้วยเหตุนี้เอง โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนติดกับประเทศพม่า จึงเปิดกว้างให้เด็กพม่าเข้ามาเรียนได้ และที่ผ่านมา โรงเรียนได้สอนให้นักเรียนรู้จักและซึมซับความแตกต่างของกันและกัน เพื่อให้ทุกคนเรียนหนังสือและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขที่สุด
สำหรับกุญแจดอกสุดท้ายที่มีความสำคัญไม่แพ้สองดอกแรกก็คือ เรื่องภาษาที่โรงเรียนเปิดสอนทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษ (EP) หลักสูตรสองภาษา (MiniEP) และการจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ (EIS) มีการจ้างครูสอนภาษาอังกฤษทั้งหมด 22 คนจากประเทศเจ้าของภาษา เช่น อังกฤษ แอฟริกา สหรัฐอเมริกา และครูจากประเทศฟิลิปปินส์และมาเลเซียมาสอนนักเรียน โดยมีครูสอนภาษาต่างประเทศทั้งหมด 47 คน
ปัจจุบัน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์มีการสอนภาษาต่างประเทศมากที่สุดใน จ.กาญจนบุรี เลยก็ว่าได้ เพราะสอนทั้งภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน จีน และญี่ปุ่น และล่าสุดได้เปิดสอนภาษาอาเซียน โดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่างพม่า และในอนาคตยังมีแผนที่จะสอนภาษาอาเซียนอื่นเพิ่มเติม เช่น ภาษามลายู ภาษาตากาล็อก และภาษาอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเตรียมร่างหลักสูตร เพราะมองว่าเรื่องภาษาถ้าไม่ตื่นตัวแบบตื่นตระหนก คงสู้คนอื่นไม่ได้
นอกจากภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาพม่าแล้ว โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมอื่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเรียนรู้ด้านอาเซียน เช่น การจัดค่ายเยาวชนอาเซียนระหว่างไทยมาเลเซีย การแลกเปลี่ยนนักเรียนและบุคลากรครูระหว่างกันตามสัญญาโรงเรียนคู่พัฒนา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นการบ่มเพาะสั่งสมประสบการณ์เรียนรู้ทั้งภาษาและการยอมรับความต่างระหว่างกัน ทำให้เด็กนักเรียนสามารถปรับตัวได้ในสถานการณ์ต่างๆ
ทั้งหมดนี้จึงเป็นบทบาทที่สำคัญของสถานศึกษากับการเตรียมความพร้อมเยาวชนใน จ.กาญจนบุรีให้ก้าวสู่ความเป็นคนอาเซียนที่มีทั้งคุณภาพและศักยภาพ โดยอาศัยกระบวนการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง


