ติวนักออกแบบไทย ปิดจุด "อ่อนภาษา" สู้ตลาดสากล
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
ธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์ในไทยเริ่มขยายตัวมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแบรนด์สินค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกายระดับโลก ที่มีนักออกแบบหรือดีไซเนอร์ไทยร่วมปรากฏบนรันเวย์หลายราย อย่าง ก้อย สุวรรณเกต (Koi Suwannagate) หรือฐากูร พานิชกุล เจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ THAKOON ดีไซเนอร์คนโปรด มิเชล โอบามา สตรีหมายเลขหนึ่งสหรัฐ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ๆ
สุรพงศ์ อู่อุดมยิ่ง นายกสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ กล่าวถึงภาพรวมและทิศทางของนักออกแบบและตลาดดีไซน์ ว่า แม้ปัจจุบันนักออกแบบไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับในตลาดสากลแล้ว แต่จากประสบการณ์ด้านธุรกิจในต่างประเทศเห็นว่าจำเป็นจะต้องพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน ได้อย่างมืออาชีพ เพื่อรองรับโอกาสตลาดบริการด้านการออกแบบและเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีสถาบันการศึกษาหลายแห่งที่เกี่ยวข้องด้านการออกแบบ ได้ผลิตบุคลากรนักออกแบบสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก มีฝีมือแตกต่างกันออกไปแต่มีจุดใหญ่ที่คล้ายคลึงกัน คือ ทักษะการสื่อสารกับต่างชาติที่มองว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากสำหรับอนาคตของนักออกแบบไทย ที่เตรียมต่อยอดธุรกิจในเวทีการค้าสากล
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ที่เป็นที่ยอมรับในต่างประเทศและเคยผ่านเวทีการแสดงงานระดับสากลมาแล้ว คือ กลุ่มของประดับตกแต่งบ้าน (เฟอร์นิเจอร์) ผลิตภัณฑ์ด้านสปา หรือของใช้ประเภทต่างๆ จากนี้ไปดีไซเนอร์คนไทยจำเป็นต้องเปิดตัวทั้งผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ ผ่านงานโชว์หรืองานแสดงสินค้ามากขึ้น
ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจแฟชั่นหรือการออกแบบในปัจจุบันผู้ผลิตหลายรายต่างหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์มากขึ้น เพื่อรองรับโลกของการออกแบบในอนาคตที่ไร้พรมแดน มีการขยายหรือเปิดตัวแบรนด์ผลิตภัณฑ์สู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ผ่านการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ หรือสไตล์เฉพาะที่เรียกว่า ซิกเนเจอร์ (Signature) หรือลายเซ็นที่สะท้อนรูปลักษณ์ กลิ่นอายการออกแบบของดีไซเนอร์คนนั้นๆ
ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าของสินค้าในยุโรปเริ่มหันมาบุกตลาดในเอเชียและอาเซียน ด้วยกลยุทธ์น็อกดอร์ เพื่อรับงานออกแบบมากขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของนักออกแบบไทย ที่มีจุดอ่อนสำคัญด้านทักษะการสื่อสารทางธุรกิจ
รวมถึงหันไปสนใจองค์ความรู้อื่นเพิ่มด้วย อย่างงานการออกแบบเชิงวิศวกรรม เพื่อรองรับการงานออกแบบที่กำลังขยายไปสู่รูปแบบโครงการแบบครบวงจรมากขึ้น
สุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์ นักออกแบบสร้างสรรค์ เจ้าของธุรกิจ SURASEKK Creatively Fresh กล่าวว่า แนวทางออกแบบแบรนด์ SURASEKK จะยึดหลักคิดต้องทำอะไรที่ใหม่เสมอ และต้องทำลักษณะนี้ให้ได้ทุกโปรเจกต์ เพื่อสะท้อนถึงผลงานที่แปลกใหม่ตลอดเวลา รวมทั้งต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและแบรนด์ไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ การดำเนินธุรกิจแบรนด์ SURASEKK ยังวางตำแหน่งเป็นผู้ให้บริการด้านความคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Service ไปพร้อมกันด้วย แบ่งรูปแบบการนำเสนองาน เป็น 3 ระดับ คือ 1.ผลงานหรือโปรดักต์ ที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสื่อสารถึงแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย 2.การผลิตงานสินค้าที่มีขนาดเล็กเพื่อให้สามารถซื้อได้ขายคล่องในกลุ่มเป้าหมายทั่วไป และ 3.การพัฒนางาน หรือโปรดักต์ที่มีขนาดใหญ่ เน้นความสวยงาม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
ทั้งหมดนี้ นอกเหนือทักษะด้านการสื่อสารแล้ว กลยุทธ์ตลาดที่เหมาะสมกับแบรนด์ นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ ที่เตรียมก้าวสู่เวทีสากล


